สำนักงานสรรพากรพื้นที่เพชรบูรณ์ เดิมใช้ชื่อ “สำนักงานสรรพากรเพชรบูรณ์” โดยอยู่ภายใต้การบริหารราชการส่วนภูมิภาค มีสำนักงานตั้งอยู่ภายในตัวอาคารศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ ถนนเพชรเจริญ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เมื่อกรมสรรพากรได้มีการพัฒนาองค์กรในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าการยกเลิกภาษีการค้าและเปลี่ยนแปลงมาใช้ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มแทน การจัดให้มีระบบสารสนเทศที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงกันในระหว่างหน่วยงาน ทั่วประเทศ ตลอดจนมีการเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมากเพื่อรองรับการพัฒนาองค์กร ทำให้สถานที่ทำงานเดิมมีความคับแคบพื้นที่ใช้สอยไม่เพียงพอกับอัตรากำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ที่ใช้ปฏิบัติงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปี พ.ศ. 2536 กรมสรรพากรได้ให้จัดหาสถานที่ในการก่อสร้างอาคาร สำนักงานเป็นของตนเองซึ่งนายสุรเดช พุทธินันท์ ตำแหน่งสรรพากรจังหวัดในขณะนั้น ได้พิจารณาเห็นสมควรให้ทีการก่อสร้างอาคารบนที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ พช. 861
ปัจจุบันมีจำนวนเนื้อที่ 2 ไร่ 2 งาน 79 ตารางวา ตั้งอยู่ในเขตตำบลสะเดียง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ บริเวณหลังที่ว่าการอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งแยกจากถนนสายสระบุรี – หล่มสัก ห่างจากตัวเมืองเพชรบูรณ์ เป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร และกรมสรรพากรได้ทำการพิจารณาอนุมัติงบประมาณก่อสร้างอาคารสำนักงานสรรพากรพื้นที่เพชรบูรณ์ขนาด 4 ชั้น ซึ่งได้มีการดำเนินการแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2539 จึงทำให้มีพื้นที่ในการปฏิบัติงานเพียงพอ กับการใช้สอย พร้อมทั้งได้ทำการย้ายสถานที่ทำงานสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งมีหน้าที่ให้บริการแก่ประชาชนโดยตรงสำหรับการรับชำระภาษีอากร จากเดิมที่เคยตั้งอยู่ในตัวอาคารที่ว่าการอำเภอเมืองเพชรบูรณ์มารวมอยู่ภายในอาคารสำนักงานเดียวกัน ปัจจุบันนอกจากมีอาคารสำนักงานภายในบริเวณดังกล่าวแล้ว กรมสรรพากรได้พิจารณาเห็นความเดือดร้อนของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในด้านที่พักอาศัย จึงได้จัดสรรงบประมาณทำการก่อสร้าง อาคารที่พักอาศัยของเจ้าหน้าที่ ขนาด 4 ชั้น 50 ห้อง จำนวน 1 หลัง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าพักอาศัย ทำให้มีความสะดวกในการ เดินทางมาปฏิบัติราชการ โดยได้ขอพื้นที่ราชพัสดุเพิ่มเติมอีกจำนวน 2 งาน 79 ตารางวา จึงทำให้ปัจจุบันสำนักงานสรรพากรพื้นที่เพชรบูรณ์ มีเนื้อที่ใช้สอยรวม 2 ไร่ 2 งาน 79 ตารางวา และได้ทำการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2546
ต่อมาได้เกิดสภาพปัญหาอาคารสำนักงานเริ่มคับแคบ เนื่องจากต้องใช้พื้นที่สำหรับพัสดุครุภัณฑ์ต่างๆที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก นายเกื้อ อ่อนละเอียด สรรพากรพื้นที่เพชรบูรณ์ ได้เล็งเห็นปัญหาดังกล่าว จึงได้ขออนุมัติงบประมาณจากกรมสรรพากร ซึ่งเป็นช่วงที่ท่านศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ในขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร ได้เดินทางตรวจเยี่ยมหน่วยงาน ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่เพชรบูรณ์ ได้เห็นสภาพที่แท้จริง จึงได้เร่งรัดอนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างอาคารพัสดุจำนวน 1 หลัง แล้วเสร็จเมื่อเดือนมกราคม 2547 จึงช่วยลดภาระการจัดเก็บพัสดุครุภัณฑ์และเอกสารต่างๆในสถานที่ทำงาน ตลอดจนได้มีการก่อสร้างป้อมยามรักษาการณ์ จำนวน 1 หลัง ทำให้หน่วยงานมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น