| |||||
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มบางกรณี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 221 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3(1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 415) พ.ศ. 2546 มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 2 และส่วน 3 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่คณะกรรมการระดับชาติของไทยเพื่อเตรียมการจัดประชุมเอเปค 2003 ดังนี้ (1) สำหรับบุคคลธรรมดา ให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้พึงประเมินเท่ากับจำนวนเงินหรือมูลค่าของทรัพย์สินที่บริจาค (2) สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่ากับจำนวนเงินหรือมูลค่าของทรัพย์สินที่บริจาค ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคก่อนหรือตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ มาตรา 4 ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 2 หมวด 3 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่คณะกรรมการระดับชาติของไทยเพื่อเตรียมการจัดประชุมเอเปค 2003 สำหรับเงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับจากการบริจาคและเงินได้พึงประเมินอย่างอื่น เฉพาะที่ใช้เพื่อประโยชน์ในการจัดประชุมเอเปค 2003 ทั้งนี้ ไม่ว่าจะได้รับก่อนหรือตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ มาตรา 5 ให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามหมวด 4 ในลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนเฉพาะการบริจาคสินค้าหรือให้บริการแก่คณะกรรมการระดับชาติของไทยเพื่อเตรียมการจัดประชุมเอเปค 2003 โดยไม่มีประโยชน์หรือค่าตอบแทน ทั้งนี้ ไม่ว่าจะได้กระทำก่อนหรือตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ มาตรา 6 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ | |||||
| |||||
|