เลขที่หนังสือ | : กค 0811/05104 |
วันที่ | : 29 เมษายน 2541 |
เรื่อง | : อากรแสตมป์ กรณีขอยกเว้นการจัดเก็บอากรแสตมป์ใบรับในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 91/2 (6), มาตรา 104, มาตรา 122, พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 244) |
ข้อหารือ | : ธนาคาร ก จำกัด (มหาชน) ได้มีหนังสือขอให้กรมที่ดินพิจารณายกเว้นการจัดเก็บ อากรแสตมป์ ใบรับในการจดทะเบียนขายอสังหาริมทรัพย์ที่ธนาคารฯ ได้รับจากการชำระหนี้หรือจากการ ประกันการให้สินเชื่อหรือจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ที่จำนองไว้แก่ธนาคารฯ จากการขายทอดตลาดโดย คำสั่งศาล หรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งธนาคารฯ จำหน่ายไปเมื่อพ้นกำหนดเวลาห้าปีนับแต่วันที่ อสังหาริมทรัพย์ตกเป็นของธนาคารฯ แล้ว โดยอ้างว่าธนาคารฯ ต้องนำรายรับที่ได้จาก การขายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวไปเสียภาษีธุรกิจเฉพาะอยู่แล้ว แต่สาเหตุในการจดทะเบียนขายพนักงาน เจ้าหน้าที่ได้เรียกเก็บอากรแสตมป์ใบรับ เนื่องจากหลักฐานใบทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.20) ของธนาคารฯ ระบุประเภทของกิจการว่า "การธนาคาร" มิใช่ "การขาย อสังหาริมทรัพย์" และ ทุกครั้งที่ธนาคารฯ ชำระอากรแสตมป์ไปแล้ว ธนาคารฯ จะต้องไปยื่นคำร้องขอคืนอากรแสตมป์จาก กรมสรรพากร เป็นภาระแก่เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรและธนาคารฯ ที่จะต้องดำเนินการคืนอากรแสตมป์ ดังกล่าว การจดทะเบียนขายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว พนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องเรียกเก็บ อากรแสตมป์ใบรับหรือไม่ อย่างไร และกรณีผู้ออกใบรับรายใดแสดงหลักฐานใบทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.20) ที่ระบุประเภทของการประกอบกิจการเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่ประเภท "การค้าอสังหาริมทรัพย์" ผู้ออกใบรับนั้นจะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียอากรแสตมป์ตามลักษณะตราสาร 28. ใบรับ "ยกเว้นไม่ต้อง เสียอากร" แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติ่มโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2534 หรือไม่ |
แนววินิจฉัย | : กรณีการขายอสังหาริมทรัพย์ โดยที่มีการจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ขาย มีหน้าที่เสีย อากรแสตมป์ตามมาตรา 104 แห่งประมวลรัษฎากร และตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ ลักษณะตราสาร 28. ใบรับซึ่งระบุว่า "ใบรับ เฉพาะตามที่ได้ระบุต่อไปนี้ ...(ข) ใบรับสำหรับการโอนหรือก่อตั้งสิทธิ ใดๆ เกี่ยวกับ อสังหาริมทรัพย์ ในเมื่อนิติกรรมที่เป็นเหตุให้ออกใบรับนั้นมีการจดทะเบียนตามกฎหมาย" พนักงานเจ้าหน้าที่จึงมีหน้าที่ต้องเรียกเก็บอากรแสตมป์ใบรับ แต่เนื่องจากการที่ธนาคารฯ ขายอสังหาริมทรัพย์ตามข้อเท็จจริงเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ ที่ผู้ขายมีไว้ในการประกอบกิจการ ตามมาตรา 3 (5) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 244) พ.ศ. 2534 ซึ่งเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร ตามมาตรา 91/2 (6) แห่ง ประมวลรัษฎากร ธนาคารฯ จึงต้องนำรายรับจากการขายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวไปเสีย ภาษีธุรกิจเฉพาะ ดังนั้น ใบรับจากการโอนกรรมสิทธิ์เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว จึงได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียอากรแสตมป์ ตามลักษณะตราสาร 28. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ หากผู้ขายอสังหาริมทรัพย์ นั้นได้ชำระภาษีธุรกิจเฉพาะไว้แล้วนับแต่วันที่ได้รับชำระราคาถึงวันโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองใน อสังหาริมทรัพย์นั้นแล้วแต่กรณี โดยคำนวณภาษีจากราคาทุนทรัพย์ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมใน ขณะที่มีการจดทะเบียนหรือทุนทรัพย์ในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามประมวลกฎหมายที่ดิน แล้วแต่ อย่างใดจะมากกว่า และได้นำหลักฐานการเสียภาษีดังกล่าวมาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยหลักฐาน นั้นแสดงให้เห็นว่าได้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับเอกสารแสดงสิทธิในอสังหาริมทรัพย์แล้ว เพื่อไม่ให้เป็น ภาระแก่ผู้เสียภาษีที่จะต้องร้องขอคืนเงินค่าอากรแสตมป์ตามมาตรา 122 แห่งประมวลรัษฎากรใน ภายหลัง เพราะเหตุที่ได้ชำระอากรแสตมป์ในขณะที่ได้มีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตรวจหลักฐานเสียภาษีธุรกิจเฉพาะใน กรณีดังกล่าว และบันทึกไว้ในสัญญาซื้อขายด้วยว่า "ได้รับยกเว้นอากรแสตมป์ตามลักษณะตราสาร 28. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์และได้ชำระภาษีธุรกิจเฉพาะแล้ว ตามใบเสร็จรับชำระภาษี เลขที่... เล่มที่.. ของสำนักงานสรรพากรอำเภอ/เขต..." โดยไม่ต้องเรียกเก็บค่าอากรแสตมป์ในลักษณะ ตราสารดังกล่าวอีก |
เลขตู้ | : 61/26630 |