เลขที่หนังสือ | : กค 0811(กม)/1519 |
วันที่ | : 14 สิงหาคม 2541 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการรับรู้รายได้เงินชดเชยภาษีอากร |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา65 |
ข้อหารือ | : ในปัจจุบันผู้เสียภาษีซึ่งเป็นนิติบุคคลได้ขอรับเงินชดเชยภาษีจากการส่งออก (บัตรภาษี) มีวิธีการรับรู้รายได้แตกต่างกันดังนี้ 1. รับรู้รายได้เมื่อยื่นคำขอรับเงินชดเชย เนื่องจากผู้ประกอบการที่ส่งออกจะได้รับ เงินชดเชยภาษีอากรในอัตราที่แน่นอน ตามอัตราเงินชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออก ตามพระราชบัญญัติ ชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงเข้าใจว่าการที่ ผู้ประกอบการรับรู้รายได้ในกรณีดังกล่าวเป็นการรับรู้รายได้ตามเกณฑ์สิทธิแล้ว ซึ่งในบางกรณี ผู้ประกอบการได้มีการโอนขายสิทธิในการรับบัตรภาษีให้กับธนาคารหรือผู้ประกอบการอื่นๆ ก่อนเวลาที่ได้ รับอนุมัติให้ได้รับบัตรภาษีด้วย 2. ผู้ประกอบการบางรายรับรู้รายได้บัตรภาษีเมื่อได้รับบัตรภาษี และหากมีการโอนขาย บัตรภาษีไปจะรับรู้รายได้ ณ วันที่ได้รับเงินจากการขายซึ่งเป็นวันหลังจากวันที่กรมศุลกากรอนุมัติ 3. ผู้ประกอบการบางรายรับรู้รายได้เมื่อกรมศุลกากรอนุมัติให้รับบัตรภาษี จึงขอทราบว่าทางปฏิบัติดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ อย่างไร |
แนววินิจฉัย | : กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งเป็นผู้ส่งออกได้ยื่นคำขอรับเงินชดเชยภาษีจากการ ส่งออกในรูปของบัตรภาษี ตามพระราชบัญญัติชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร พ.ศ. 2524 ผู้ส่งออกนั้นจะต้องรับรู้มูลค่าของบัตรภาษีเป็นรายได้ของบริษัทฯ เมื่อกรมศุลกากรอนุมัติให้ ได้รับบัตรภาษี ตามหลักเกณฑ์สิทธิในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 65 แห่ง ประมวลรัษฎากร ส่วนกรณีการรับรู้รายได้เมื่อยื่นคำขอรับเงินชดเชย หรือ การรับรู้รายได้เมื่อได้รับบัตรภาษี ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์สิทธิในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร ดังกล่าว |
เลขตู้ | : 61/26983 |