เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/13252
วันที่: 9 กันยายน 2541
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการเรียกเก็บเงินมัดจำการให้บริการโทรศัพท์
ข้อกฎหมาย: มาตรา 78/1, มาตรา 79, คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.73/2541ฯ
ข้อหารือ: บริษัทฯ ขอหารือเกี่ยวกับภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการเรียกเก็บเงิน
ประกันการเช่า ดังนี้
1. กรณีบริษัทฯ ผู้ให้เช่าตกลงให้บริการโทรศัพท์สายตรงแก่ลูกค้า โดยผู้เช่าเป็นผู้ชำระค่า
โทรศัพท์เอง และมีการเรียกเก็บเงินมัดจำโทรศัพท์กับผู้เช่าเพื่อเป็นหลักประกันว่า ผู้เช่าไม่มีภาระ
ติดค้างค่าโทรศัพท์และจะคืนให้เมื่อเลิกสัญญาหรือเลิกใช้โทรศัพท์ เงินมัดจำโทรศัพท์ที่เรียกเก็บนี้จะถือ
เป็นค่าบริการรับล่วงหน้าเหมือนเงินประกันบริการหรือไม่ และถือเป็นรายได้ที่บริษัทฯ ต้องนำไปรวม
คำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วยใช่หรือไม่ ถ้าต้องรวมคำนวณการรับรู้รายได้จะรับรู้อย่างไร
2. กรณีบริษัทฯ ผู้ให้เช่าดำเนินการขอโทรศัพท์จากองค์การโทรศัพท์ โดยผ่านบริษัท เทเล
คอมเอเชียจำกัด เพื่อนำมาใช้ในส่วนของกิจการเอง และเพื่อให้บริการสายตรงแก่ลูกค้าด้วย
องค์การโทรศัพท์จะเรียกเก็บเงินมัดจำโทรศัพท์หมายเลขละ 3,000 บาท และจะคืนให้เมื่อเลิกสัญญา
หรือเลิกใช้โทรศัพท์ เงินมัดจำโทรศัพท์ที่บริษัทฯ จ่ายให้องค์การโทรศัพท์ บริษัทฯ จะลงเป็นรายจ่ายได้
หรือไม่ ถ้าได้จะลงอย่างไร ลงเป็นค่าใช้จ่ายทั้งจำนวน หรือทยอยตัดเป็นค่าใช้จ่าย เพราะอายุการใช้
โทรศัพท์ไม่สามารถระบุได้
แนววินิจฉัย: 1. กรณีตาม 1. เงินมัดจำโทรศัพท์ที่บริษัทฯ ผู้ให้เช่าเรียกเก็บจากลูกค้าผู้เช่าเพื่อเป็น
หลักประกันดังกล่าว และไม่ว่าผู้เช่าจะเป็นผู้ชำระค่าโทรศัพท์ให้องค์การโทรศัพท์เองหรือไม่ก็ตาม ถือ
เป็นค่าบริการรับล่วงหน้า ต้องนำมูลค่าทั้งหมดที่ได้รับหรือพึงได้รับมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษี
ตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร โดยถือว่าความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นในขณะได้รับ
ชำระเงินดังกล่าว ตามมาตรา 78/1 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2 (3)(ข) แห่ง
คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.73/2541 เรื่อง การเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการ
เรียกเก็บเงินจ่ายล่วงหน้า เงินประกัน เงินมัดจำหรือเงินจอง ลงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2541 ซึ่ง
แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.74/2541 ฯ ลงวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2541
สำหรับการคำนวณรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล หากเป็นการให้บริการตามสัญญา
ระยะยาวและมีการเรียกเก็บเงินมัดจำในลักษณะเป็นเงินก้อนเพื่อเป็นหลักประกันการให้บริการโทรศัพท์
บริษัทฯ จะต้องนำเงินมัดจำดังกล่าวมารวมคำนวณเป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มให้บริการหรือ
จะนำรายได้นั้นมาเฉลี่ยตามส่วนแห่งจำนวนปีตามสัญญา แต่ไม่เกินสิบปี และนำมารวมคำนวณเป็นรายได้
ในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีนับแต่ปีที่เริ่มให้บริการก็ได้ ตามข้อ 2 (1) (ก) แห่งคำสั่งกรมสรรพากร
ดังกล่าว
2. กรณีตาม 2. เงินมัดจำโทรศัพท์ที่องค์การโทรศัพท์ฯ เรียกเก็บหมายเลขละ 3,000
บาท ไม่ถือเป็นรายได้ที่เรียกเก็บในลักษณะเป็นเงินก้อนเพื่อตอบแทนการให้บริการ ตามข้อ 2 (1) (ก)
แห่งคำสั่งกรมสรรพากรดังกล่าว เงินมัดจำจำนวน 3,000 บาทข้างต้น จึงไม่ถือเป็นรายได้ในการ
เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลของผู้ให้บริการกรณีที่ผู้ให้บริการต้องเสียภาษีเงินได้ (กรณีนี้องค์การโทรศัพท์
ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้)
ดังนั้น บริษัทฯ ผู้จ่ายเงินมัดจำดังกล่าวจึงไม่มีสิทธินำมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณ
กำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลแต่อย่างใด
เลขตู้: 61/27073

 


 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020