เลขที่หนังสือ | : กค 0811/พ.13395 |
วันที่ | : 11 กันยายน 2541 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการพิจารณาให้การขายน้ำมันพืชทุกชนิดอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 81, มาตรา 81/3, มาตรา 82/3 |
ข้อหารือ | : กรรมการและสมาชิกสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม และชมรมโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ ได้เสนอ ขอให้การขายผลผลิตจากอุตสาหกรรมน้ำมันพืชทั้งหมดและทุกประเภททั้งที่เป็นน้ำมันดิบ น้ำมันบริสุทธิ์ และ ผลพลอยได้อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ด้วยเหตุผลเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทางการค้า ไม่เกิดความ สับสนในการเสียภาษี และช่วยในการจัดเก็บภาษีของรัฐเป็นระบบมากขึ้น และในระหว่างการหารือนั้น ที่ประชุมเห็นว่า เพื่อความเป็นธรรมในการค้าโดยเฉพาะคือการค้าน้ำมันพืชชนิดต่าง ๆ และผลผลิตจาก อุตสาหกรรมดังกล่าว เช่นน้ำมันปาล์ม น้ำมันเมล็ดในปาล์ม น้ำมันมะพร้าว น้ำมันจากเมล็ดฝ้าย น้ำมัน ดอกคำฝอย น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกทานตะวัน ฯลฯ ควรจะอยู่ในระบบ ภาษีมูลค่าเพิ่มเหมือนกันทั้งหมด ต่อมาสมาคมฯ ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ปริมาณผลผลิตน้ำมันพืชทุกชนิดในประเทศมีประมาณ 650 ล้านกิโลกรัม ราคาขายเฉลี่ยตั้งแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2541 อยู่ระหว่าง 30 - 34 บาท ต่อกิโลกรัม สูงกว่าราคาเฉลี่ยของปี 2540 กิโลกรัมละ 10 บาท หากน้ำมันพืชอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ตั้งแต่ช่วงที่เป็นน้ำมันดิบ จะทำให้กรมสรรพากรมีรายรับของภาษีขายสูงถึง 1,950 - 2,210 ล้านบาท ดังนั้น สมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม จึงขอให้กรมสรรพากร พิจารณาให้การขายผลผลิตจาก อุตสาหกรรมน้ำมันพืชทุกชนิด ตั้งแต่ขั้นตอนของน้ำมันดิบอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย ทั้งนี้ เพื่อ ความเป็นธรรมทางการค้าและเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีของรัฐ |
แนววินิจฉัย | : กรณีตามตามข้อเท็จจริงดังกล่าว 1. ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ที่ 23/2536 เรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม การขายน้ำมันดิบของพืช ลงวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2536 ได้วินิจฉัยว่าการขายน้ำมันดิบของพืชที่ยัง มิได้แปรรูปหรือแปรสภาพเป็นอาหารไม่ว่าจะมีสารกันเสีย หรือสารอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกันผสมอยู่ ด้วยหรือไม่ ย่อมเข้าลักษณะเป็นการขายพืชผลและวัตถุพลอยได้จากพืชที่รักษาสภาพไว้ เพื่อมิให้เสีย เพื่อ การขายปลีกหรือขายส่งได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81 (1) (ก) แห่ง ประมวลรัษฎากร 2. ตามมาตรา 81/3 (1) แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดให้กิจการขายสินค้าที่ได้รับ ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81 (1) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร มีสิทธิแจ้งต่ออธิบดีกำหนด เพื่อ ขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 10.0 ตาม มาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร ได้ 3. ประเด็นปัญหาที่สมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม และชมรมโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ ขอให้ กรมสรรพากรพิจารณาให้น้ำมันพืชทุกชนิด ตั้งแต่ขั้นตอนของน้ำมันดิบอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น ปัจจุบัน ยังไม่สามารถกระทำได้ดังเหตุผลตาม 1. แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันหากผู้ประกอบการขายน้ำมันดิบของพืชรายใดต้องการอยู่ใน ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็มีสิทธิแจ้งต่ออธิบดีตามแบบที่อธิบดีกำหนดเพื่อขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากรได้อยู่แล้วตามมาตรา 81/3 (1) แห่ง ประมวลรัษฎากร เพียงแต่กรมสรรพากรไม่มีสิทธิบังคับให้ผู้ประกอบการที่ขายน้ำมันดิบของพืชทุกราย เข้า ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มได้ หากผู้ประกอบการรายนั้นไม่ประสงค์จะขอเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม |
เลขตู้ | : 61/27083 |