เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811(กม)/พ.1703
วันที่: 17 กันยายน 2541
เรื่อง: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการจดทะเบียนสำหรับสำนักงานใหญ่ที่มีหน่วยงานอยู่ในสถานประกอบการหลายแห่ง
ข้อกฎหมาย: มาตรา77/1 (20), มาตรา83, มาตรา85/7, มาตรา91/1, มาตรา91/21
ข้อหารือ: ธนาคาร ก. จำกัด (มหาชน) ได้มีหนังสือลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2541 ขอทราบปัญหา
ข้อกฎหมายเกี่ยวกับการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ข้อเท็จจริงสรุปได้ ดังนี้
ธนาคารฯ มีสถานประกอบการซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 3 ถนนสุขุมวิท แขวง
คลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร โดยมีหน่วยงานของสำนักงานใหญ่บางส่วนได้แยกไป
ปฏิบัติงาน ณ สถานที่ต่าง ๆซึ่งหน่วยงานที่แยกไปนั้น อาจจะมีที่ทำการอิสระแยกต่างหาก หรือมีที่ทำการ
ตั้งอยู่ในอาคารเดียวกันกับสาขาของธนาคารฯ ซึ่งได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้แล้ว
หน่วยงานของสำนักงานใหญ่ที่แยกไปปฏิบัติงาน ณ สถานที่ต่าง ๆ มีทั้งสิ้น 13 หน่วยงาน
บางหน่วยงานปฏิบัติงานของสำนักงานใหญ่เฉพาะในส่วนของกิจการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม บางหน่วยงาน
ปฏิบัติงานเฉพาะในส่วนของกิจการที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ และบางหน่วยงานปฏิบัติงานในส่วนของกิจการ
ที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะ
จากข้อเท็จจริงข้างต้น ธนาคารฯ จึงขอทราบว่า
1. หน่วยงานของสำนักงานใหญ่ที่แยกออกไปประกอบการ ณ สถานที่ต่าง ๆ จะต้อง
จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ หากต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม การระบุที่อยู่ของสถานประกอบการ
เป็นเลขที่เดียวกันกับสาขาจะมีปัญหาเกี่ยวกับสถานที่ตั้งซ้ำกับสาขาหรือไม่ และจะเป็นปัญหาในการนับ
ลำดับสาขาของธนาคารฯ หรือเพิ่มสถานประกอบการหรือไม่
2. ธนาคารฯ จะขออนุมัติให้หน่วยงานของสำนักงานใหญ่ยื่นแบบแสดงรายการและชำระ
ภาษีรวมกัน ณ สำนักงานใหญ่ โดยไม่รวมการยื่นแบบแสดงรายการของสาขา จะได้หรือไม่
แนววินิจฉัย: จากข้อเท็จจริงดังกล่าวพิจารณาได้ดังนี้
1. บทนิยามคำว่า "สถานประกอบการ" ตามมาตรา 77/1 (20) และมาตรา 91/1
วรรคท้าย แห่งประมวลรัษฎากร หมายความว่า "สถานที่ซึ่งผู้ประกอบการใช้ประกอบกิจการเป็นประจำ
และให้หมายความรวมถึง สถานที่ซึ่งใช้เป็นที่ผลิตหรือเก็บสินค้าเป็นประจำด้วย" ดังนั้น กรณีตามข้อ 1
จึงพิจารณาได้ ดังนี้
(1) กรณีหน่วยงานบางส่วนของสำนักงานใหญ่ของธนาคารฯ ได้แยกไปปฏิบัติงาน ณ
สถานที่อื่น โดยมีที่ทำการเป็นอิสระแยกต่างหากจากสำนักงานใหญ่ ที่ทำการดังกล่าวถือเป็นสถานที่ซึ่ง
ผู้ประกอบการใช้ประกอบกิจการเป็นประจำ จึงเข้าลักษณะเป็น "สถานประกอบการ" ตามมาตรา 77/1
(20) และมาตรา 91/1 วรรคท้าย แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น ธนาคารฯ จึงต้องแจ้งการ
เปลี่ยนแปลงทางทะเบียน ดังนี้
ก. กรณีที่ทำการของหน่วยงานเป็นสถานประกอบการที่ปฏิบัติงานธนาคารในส่วน
ของกิจการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ธนาคารฯ ต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนก่อนเปิด
สถานประกอบการเพิ่มเติมไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน เพื่อขอรับใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับ
สถานประกอบการนั้น ตามมาตรา 85/7 แห่งประมวลรัษฎากร
ข. กรณีที่ทำการของหน่วยงานเป็นสถานประกอบการที่ปฏิบัติงานธนาคารในส่วน
ของกิจการที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ธนาคารฯ ต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนก่อนเปิด
สถานประกอบการเพิ่มเติมไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน เพื่อขอรับใบทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับ
สถานประกอบการนั้น ตามมาตรา 91/21 (3) แห่งประมวลรัษฎากร
ค. กรณีที่ทำการของหน่วยงานเป็นสถานประกอบการที่ปฏิบัติงานธนาคารในส่วน
ของกิจการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะ ธนาคารฯ ต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน
ก่อนเปิดสถานประกอบการเพิ่มเติมไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน เพื่อขอรับใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและ
ภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับสถานประกอบการนั้น ตามมาตรา 85/7 และมาตรา 91/21 (3) แห่ง
ประมวลรัษฎากร
(2) กรณีหน่วยงานบางส่วนของสำนักงานใหญ่ของธนาคารฯ ได้แยกไปปฏิบัติงานโดยมี
ที่ทำการอยู่ในที่ทำการเดียวกับสาขาของธนาคารฯ กรณีดังกล่าว แม้ว่าสถานประกอบการของสาขาจะ
เป็นสถานที่ซึ่งหน่วยงานของสำนักงานใหญ่ใช้ประกอบกิจการเป็นประจำ แต่เนื่องจากธนาคารฯ ได้
จดทะเบียนสถานที่ดังกล่าวเป็นสถานประกอบการสาขาของธนาคารฯ ไว้แล้ว ธนาคารฯ จึงไม่ต้องแจ้ง
การเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนอีกแต่อย่างใด
2. กรณีธนาคารฯ ประสงค์จะขออนุมัติให้สถานประกอบการของหน่วยงานของ
สำนักงานใหญ่ยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกัน ณ สำนักงานใหญ่ โดยไม่รวมการยื่น
แบบแสดงรายการของสาขา ตาม 2. นั้น เห็นว่า มาตรา 83 วรรคสี่ แห่งประมวลรัษฎากร ได้กำหนด
ให้ กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนมีสถานประกอบการหลายแห่ง การยื่นแบบแสดงรายการและการชำระ
ภาษี ให้แยกยื่นและชำระเป็นรายสถานประกอบการ เว้นแต่ผู้ประกอบการจดทะเบียนจะยื่นคำร้องต่อ
อธิบดีขออนุมัติยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีรวมกัน ณ ที่ว่าการอำเภอท้องที่แห่งใดแห่งหนึ่ง
หรือ ณ สถานที่ที่อธิบดีกำหนดและตามข้อ 5 ของระเบียบกรมสรรพากร ว่าด้วยการอนุมัติให้
ผู้ประกอบการจดทะเบียนยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกัน ตามมาตรา 83
วรรคสี่ แห่งประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบกรมสรรพากรฯ (ฉบับที่ 3)
พ.ศ. 2536 ได้กำหนดว่า "เว้นแต่อธิบดีกรมสรรพากรจะกำหนดเป็นอย่างอื่น การพิจารณาอนุมัติให้
ผู้ประกอบการจดทะเบียนยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกันให้อนุมัติให้ผู้ประกอบการ
จดทะเบียนยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีมูลค่าเพิ่มของทุกสถานประกอบการรวมกัน ณ สถานที่
แห่งใดแห่งหนึ่ง ดังนี้
ก. สำนักงานเขตท้องที่หรือที่ว่าการอำเภอท้องที่ ซึ่งสถานประกอบการที่เป็น
สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่
ข. สำนักงานเขตท้องที่หรือที่ว่าการอำเภอท้องที่ ซึ่งสถานประกอบการที่เป็น
สาขาใดสาขาหนึ่งตั้งอยู่"
ดังนั้น กรณีตามข้อเท็จจริงของธนาคารฯ กรมสรรพากรจึงไม่อาจอนุมัติให้
สถานประกอบการของหน่วยงานของสำนักงานใหญ่ทั้ง 13 หน่วยงาน ยื่นแบบแสดงรายการและ
ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกัน ณ สำนักงานใหญ่ โดยไม่รวมการยื่นแบบแสดงรายการของสาขา ได้แต่
อย่างใด
เลขตู้: 61/27138

 


 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020