เลขที่หนังสือ | : กค 0811/00140 |
วันที่ | : 7 มกราคม 2542 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีเงินที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงานต่างปีภาษีกัน และการคำนวณจำนวนปีที่ทำงาน |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 48(5), ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45) พ.ศ. 2535ฯ |
ข้อหารือ | : นาย ก. เคยทำงานอยู่ที่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ข. จำกัด (1 ใน 56 ไฟแนนซ์ ซึ่งได้ ถูกปิดกิจการเป็นการถาวร) ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2536 และออกจากการเป็นพนักงานประจำตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2541 เป็นจำนวน 4 ปี 319 วัน โดยได้รับเงินชดเชยเลิกจ้างตามกฎหมายแรงงาน ในเดือนธันวาคม 2540 และเงินกองทุนตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในเดือนมกราคม 2541 ในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2540 นาย ก. ได้นับระยะเวลา การทำงานเป็น 5 ปี เนื่องจากเศษของปีเกิน 183 วัน และได้แยกคำนวณเงินได้จากเงินชดเชยฯ โดย ไม่นำไปรวมคำนวณภาษีกับเงินได้อื่น ๆ จึงขอทราบว่า 1. เงินชดเชยเลิกจ้างที่ได้รับในเดือนธันวาคม 2540 จะแยกคำนวณภาษีต่างหากจาก เงินได้ประเภทอื่น สำหรับการยื่นแบบแสดงรายการประจำปี 2540 ได้หรือไม่ 2. เงินที่ได้จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ได้รับในเดือนมกราคม 2541 จะต้องนำไปรวม คำนวณภาษีกับเงินได้ประเภทอื่น ๆ ใช่หรือไม่ |
แนววินิจฉัย | : เงินชดเชยการเลิกจ้างตามกฎหมายแรงงานและเงินที่จ่ายจากกองทุนตามกฎหมายว่าด้วย กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่ นาย ก. ได้รับเมื่อบริษัทฯ ถูกปิดกิจการ ซึ่งมีระยะเวลาทำงานอยู่ที่บริษัทฯ เป็นเวลา 4 ปี 319 วัน ไม่ครบ 5 ปี ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามข้อ 2 (ก) ของ ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)ฯ ลงวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2535 นาย ก. จึงไม่มีสิทธิเลือกคำนวณภาษีตามหลักเกณฑ์สำหรับเงินที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุ ออกจากงานตามมาตรา 48 (5) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น นาย ก. ต้องนำเงินได้ดังกล่าวไปรวม คำนวณภาษีกับเงินได้ประเภทอื่นตามมาตรา 48 (1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับการคำนวณจำนวนปีที่ทำงานกรณีเศษของปีเกินกว่า 183 วัน ซึ่งให้นับเป็น 1 ปี นั้น เป็นกรณีที่จะใช้ในการนับจำนวนปีเพื่อการคำนวณหักค่าใช้จ่ายตามมาตรา 48 (5) วรรคหนึ่ง แห่ง ประมวลรัษฎากร |
เลขตู้ | : 62/27397 |