เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/พ.00220
วันที่: 12 มกราคม 2542
เรื่อง: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีเลิกประกอบกิจการ
ข้อกฎหมาย: มาตรา 77/1(8)(ฉ), มาตรา 78(2), มาตรา 78/3, มาตรา 85/15, มาตรา 86,
คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.66/2539 ฯ, กฎกระทรวง ฉบับที่ 189 (พ.ศ. 2534)ฯ
ข้อหารือ: บริษัท ก. จำกัด ประกอบกิจการให้เช่าซื้อสังหาริมทรัพย์และให้เช่าทรัพย์สินแบบลิสซิ่ง ได้
ขอคืนภาษีสำหรับเดือนภาษีเมษายน ถึงเดือนกันยายน 2537 และเดือนภาษีกุมภาพันธ์ 2538 เดือนภาษี
พฤษภาคม 2538 บริษัทฯ แจ้งว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติให้เลิกประกอบกิจการและบริษัทฯ ได้จดทะเบียน
เลิกเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2541 และยื่นแบบ ภ.พ.09 เพื่อแจ้งเลิกประกอบกิจการต่อกรมสรรพากร
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2541 บริษัทฯ จึงมีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าคงเหลือหรือทรัพย์สินที่
บริษัทฯ มีไว้ในการประกอบกิจการ ถือเป็นการขาย ณ วันเลิกประกอบกิจการ ตามมาตรา 77/1 (8)
(ฉ) แห่งประมวลรัษฎากร แต่สำหรับการขายสินค้าตามสัญญาเช่าซื้อที่บริษัทฯ ได้ทำกับผู้เช่าซื้อก่อนวันยื่น
แบบแจ้งเลิกกิจการ ซึ่งความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นเมื่อถึงกำหนดชำระราคาตามงวดที่ถึง
กำหนดชำระแต่ละงวด ตามมาตรา 78 (2) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น ลูกหนี้ค่าสินค้าตาม
สัญญาเช่าซื้อดังกล่าว ณ วันเลิกประกอบกิจการ ไม่พึงถือเป็นสินค้าคงเหลือหรือทรัพย์สินที่มีไว้ในการ
ประกอบกิจการที่จะถือเป็นการขาย ณ วันเลิกประกอบกิจการ ส่วนสินค้าที่บริษัทฯ ยึดมาจึงถือว่าเป็น
สินค้าคงเหลือ ซึ่งจะถือเป็นการขาย ณ วันเลิกประกอบกิจการ ตามมาตรา 77/1 (8) (ฉ) แห่ง
ประมวลรัษฎากร
สพท. เห็นว่า การขายสินค้าตามสัญญาเช่าซื้อกรรมสิทธิ์ในสินค้ายังคงเป็นของบริษัทฯ จึง
มีสิทธิเรียกร้องให้ผู้เช่าซื้อชำระเงินตามสัญญาเช่าซื้อ และยึดสินค้านั้นคืนได้หากมีกรณีเลิกสัญญาเช่าซื้อ
จึงถือเป็นสินค้าคงเหลือ ณ วันเลิกประกอบกิจการ ซึ่งถือเป็นการขาย ตามมาตรา 77/1 (8) (ฉ)แห่ง
ประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงมีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ วันเลิกประกอบกิจการ
ภาค เห็นว่า กรณีบริษัทฯ ได้ทำสัญญาเช่าซื้อไว้ก่อนวันยื่นแบบเพื่อแจ้งเลิกประกอบกิจการ
และบริษัทฯ มิได้มีการบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อกับลูกค้า บริษัทฯ จึงยังต้องรับผิดเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อถึง
กำหนดชำระราคาตามงวดที่ถึงกำหนดชำระแต่ละงวด ตามมาตรา 78 (2) แห่งประมวลรัษฎากร
ประกอบกับข้อ 2 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.36/2536 เรื่อง การขายสินค้าตามสัญญาเช่าซื้อหรือ
สัญญาซื้อขายผ่อนชำระที่กรรมสิทธิ์ในสินค้ายังไม่โอนไปยังผู้ซื้อเมื่อส่งมอบ ตามมาตรา 78 (2) แห่ง
ประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 และบริษัทฯ ยังคงมีสิทธิออกใบกำกับภาษีสำหรับ
การขายสินค้านั้น ตามมาตรา 86 แห่งประมวลรัษฎากร ภายใน 60 วันนับจากวันถัดจากวันที่ยื่นแบบเพื่อ
แจ้งเลิกการประกอบกิจการ ตามข้อ 4 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.66/2539 เรื่อง การแจ้งเลิก
ประกอบกิจการ ตามมาตรา 85/15 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2539 ส่วนกรณี
สินค้าที่ถูกยึดมาจากลูกค้าถือเป็นสินค้าคงเหลือที่ต้องถือเป็นการขาย ณ วันเลิกประกอบกิจการ ตาม
มาตรา 77/1 (8) แห่งประมวลรัษฎากร
แนววินิจฉัย: บริษัทฯ ได้ทำสัญญาเช่าซื้อไว้ก่อนวันยื่นแบบแจ้งเลิกประกอบกิจการโดยมิได้บอกเลิก
สัญญาเช่าซื้อ ณ วันเลิกประกอบกิจการ สินค้าที่นำไปให้เช่าซื้อดังกล่าว กรรมสิทธิ์ยังคงเป็นของบริษัทฯ
กรณีจึงถือเป็นทรัพย์สินที่มีไว้ในการประกอบกิจการ ซึ่งถือเป็นการขาย ณ วันเลิกประกอบกิจการ ตาม
มาตรา 77/1 (8) (ฉ) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงมีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยให้ความรับผิด
ในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น ณ วันเลิกประกอบกิจการ หรือแจ้งเลิกประกอบกิจการ ตามมาตรา
85/15 แห่งประมวลรัษฎากร และตามมาตรา 78/3 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 9 แห่ง
กฎกระทรวง ฉบับที่ 189 (พ.ศ. 2534) กรณีจึงมิใช่เป็นการขายสินค้าหรือให้บริการไปก่อนวันที่ยื่นแบบ
เพื่อแจ้งเลิกการประกอบกิจการ แต่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และในการออกใบกำกับภาษี
ยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้น บริษัทฯ จึงไม่มีสิทธิ์ออกใบกำกับภาษีตามข้อ 4 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.66/2539 ฯ
ลงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2539
เลขตู้: 62/27403

 


 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020