เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/พ.02162
วันที่: 8 มีนาคม 2542
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีเงินเพิ่มในการยื่น ภ.ง.ด.51 เพิ่มเติม
ข้อกฎหมาย: มาตรา 67 ทวิ, ประกาศกระทรวงการคลัง ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2541ฯ
ข้อหารือ: บริษัท ก จำกัด แจ้งว่า
1. บริษัทฯ ได้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2541 โดยไม่มี
ภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ต้องชำระ บริษัทฯ ได้ประมาณการไว้ดังนี้
ประมาณการยอดรายรับ 173,000,000.00 บาท
หัก ประมาณการรายจ่าย 177,370,000.00 บาท
คงเหลือ ประมาณการขาดทุนสุทธิ (4,370,000.00) บาท
กึ่งหนึ่งของประมาณการขาดทุนสุทธิ 2,185,000.00 บาท
ประมาณการรายจ่ายจำนวน 177,370,000.00 บาท ข้างต้น ได้รวมผลขาดทุนเป็นเงิน
ประมาณ 10,000,000.00 บาท อันเกิดจากการที่บริษัทฯ ได้ลงทุนในหุ้นของบริษัทในเครือแห่งหนึ่ง
และบริษัทในเครือดังกล่าวได้แจ้งให้บริษัทฯ ทราบว่า จะดำเนินการปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัท
โดยลดทุนเพื่อตัดผลขาดทุนสะสมลง แล้วเพิ่มทุนโดยออกหุ้นใหม่ และแปลงเจ้าหนี้เป็นทุน เพื่อแก้ปัญหา
สภาพคล่องทางการเงินอันเป็นผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ การปรับลดโครงสร้างเงินทุน
ดังกล่าวจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2541 ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้นำผลขาดทุนจำนวนประมาณ
10,000,000.00 บาท จากการถือหุ้นทุนของบริษัทในเครือดังกล่าวมารวมในประมาณการรายจ่าย
ดังกล่าวมาแล้ว
2. ต่อมาบริษัทฯ ได้รับแจ้งจากบริษัทในเครือดังกล่าวว่า การลดทุนตามแผนการปรับ
โครงสร้างเงินทุน ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปลายปี 2541 ได้ เพราะมีพิธีการที่จะต้อง
ดำเนินการทางกระทรวงพาณิชย์มาก คงจะจดทะเบียนลดทุนเสร็จในเดือนมกราคม 2542
3. ด้วยเหตุดังกล่าวตาม 2. ผลขาดทุนจำนวนประมาณ 10,000,000.00 บาท จาก
การลงทุนในหุ้นทุนในบริษัทในเครือจึงไม่เกิดขึ้นในปี 2541 แต่จะเกิดขึ้นในปี 2542 บริษัทฯ จึงได้ยื่น
แบบ ภ.ง.ด.51 เพิ่มเติม เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2541 โดยปรับลดประมาณการรายจ่ายลง คงเหลือ
165,000,000.00 บาทดังนั้น ประมาณการใหม่จึงเป็นดังนี้
ประมาณการยอดรายรับ 173,000,000.00 บาท
หัก ประมาณการรายจ่าย 165,000,000.00 บาท
คงเหลือ ประมาณการกำไรสุทธิ 8,000,000.00 บาท
กึ่งหนึ่งของประมาณการกำไรสุทธิที่ต้องคำนวณภาษี 4,000,000.00 บาท
ภาษีเงินได้ ร้อยละ 30 1,200,000.00 บาท
หัก ภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา 3 เตรส และมาตรา 69 ทวิ (29,516.52) บาท
ภาษีเงินได้ที่ต้องชำระ 1,170,483.48 บาท
ในการยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 เพิ่มเติม สำนักงานสรรพากรเขตได้เรียกเก็บเงินเพิ่มร้อยละ
1.5 ต่อเดือน รวมเป็นเงิน 17,557.25 บาท
4. บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) สำหรับปี 2540 มี
ผลขาดทุนสุทธิตามบัญชี 4,054,128.81 บาท และผลขาดทุนสุทธิหลังจากการปรับปรุงตามมาตรา 65
ทวิ และ มาตรา 65 ตรี แล้ว 35,489.52 บาท
5. บริษัทฯ ได้สอบถามเจ้าหน้าที่สรรพากร ณ สถานที่ต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องเงินเพิ่มใน
กรณีนี้ และได้รับคำตอบไม่ตรงกัน ดังนี้
(1) ต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละ 20 ของประมาณการกำไรสุทธิที่ขาดไป
(2) ต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือน ของยอดภาษีที่เสียเพิ่มเติม
(3) ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มร้อยละ 20 เพราะไม่มีฐานภาษี (กำไรสุทธิจริงของปี
2541 ลบด้วยประมาณการกำไรสุทธิของปี 2541) ที่จะคำนวณได้ในขณะนี้ และไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม
ร้อยละ 1.5 ต่อเดือนเพราะการชำระเงินภาษีได้ถูกขยายเวลามาให้ชำระภายใน 8 เดือน นับแต่วัน
สุดท้ายของรอบระยะเวลา 6 เดือน นับแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชีดังกล่าว โดยไม่ต้องเสีย
เงินเพิ่มใด ๆ ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ขยายเวลาการชำระภาษีอากร สำหรับการยื่นแบบ
แสดงรายการตามมาตรา 67 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2541
บริษัทฯ จึงขอทราบว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไรจึงจะถูกต้อง
แนววินิจฉัย: กรณีที่บริษัท ก จำกัด ได้ยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.51 ปรับปรุงการยื่น
แบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลกลางปี สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่สิ้นสุดในหรือหลังวันที่ 31
ธันวาคม 2541 ซึ่งได้ยื่นไว้เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2541 ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง
ขยายเวลาการชำระภาษีอากร สำหรับการยื่นแบบแสดงรายการ ตามมาตรา 67 ทวิ แห่ง
ประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2541 แล้ว บริษัท ฯจึงไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแต่อย่างใด
เลขตู้: 62/27612

 


 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020