เลขที่หนังสือ | : กค 0811/พ.04380 |
วันที่ | : 11 พฤษภาคม 2542 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีขอคืนภาษี |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 84/1 |
ข้อหารือ | : กรณีบริษัทฯ ให้เช่าอาคารโดยผู้เช่านำอาคารไปประกอบกิจการคลังสินค้าทัณฑ์บน เข้า ลักษณะเป็นผู้ประกอบการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีซื้อที่เกิดจากค่าก่อสร้าง อาคารที่ให้เช่า ต้องห้ามนำไปหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทฯ เคยขอคืนภาษี สำหรับเดือนภาษีพฤศจิกายน 2538 ซึ่งต่อมาได้มีการตรวจและพิจารณาเสร็จเรียบร้อย แต่สำหรับ เดือนภาษีธันวาคม 2538 เจ้าหน้าที่ที่ตรวจได้แจ้งว่า ให้รอผลสอบยันใบกำกับภาษีเสร็จก่อนแล้วจะให้ บริษัทฯ ทำการปรับปรุงแบบ ภ.พ.30 ทุกเดือนภาษีที่มีการยื่นผิดพลาดคลาดเคลื่อน ซึ่งบริษัทฯ ก็ได้ ติดตามสอบถามผลการดำเนินการมาโดยตลอด จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้บริษัทฯ ยื่นปรับปรุงแบบ ภ.พ.30 ให้ถูกต้อง ซึ่งปรากฏว่าบางเดือนชำระไว้เกินต้องขอคืน แต่บางเดือนชำระไว้ขาดต้องชำระ เพิ่มเติม เจ้าหน้าที่แจ้งว่า บริษัทฯ ไม่มีสิทธิขอคืนเพราะเกินกำหนดเวลา 3 ปี นับแต่วันยื่นแบบ ส่วนที่ ชำระขาดต้องชำระเพิ่มเติมพร้อมเงินเพิ่ม บริษัทฯ เห็นว่าเป็นการไม่เป็นธรรมกับบริษัทฯ เพราะอยู่ ในระหว่างการตรวจสอบ และต้องรอผลสอบยันใบกำกับภาษีเสร็จก่อนจึงจะให้ปรับปรุงแบบ ภ.พ.30 และควรจะแจ้งก่อนพ้นกำหนดเวลาการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทฯ เข้าใจว่า กรณีขอคืนภาษีที่ไม่มีหน้าที่ ต้องเสียน่าจะขอคืนได้ภายในกำหนดเวลา 10 ปี บริษัทฯ จึงหารือกรมสรรพากรว่าความเห็นของบริษัทฯ ถูกต้องหรือไม่ |
แนววินิจฉัย | : กรณียื่นคำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทฯ ต้องยื่นคำร้องขอคืนภายใน 3 ปีนับแต่วันพ้น กำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษีสำหรับเดือนภาษีนั้น ตามมาตรา 84/1 แห่งประมวลรัษฎากร อย่างไรก็ตาม ถ้าบริษัทฯ ถูกเจ้าพนักงานประเมินออกหมายเรียกตรวจสอบ และผลการตรวจสอบ ปรากฏว่าบางเดือนภาษีบริษัทฯ ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ขาด บางเดือนชำระภาษีไว้เกิน บริษัทฯ สามารถ ยื่นคำร้องขอให้เจ้าพนักงานประเมินหักกลบลบหนี้สำหรับเดือนภาษีที่มีการตรวจสอบนั้นได้ |
เลขตู้ | : 62/27779 |