เลขที่หนังสือ | : กค 0811/09558 |
วันที่ | : 14 กันยายน 2542 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้นิติบุคคล การรับรู้รายได้รายจ่ายตามเกณฑ์เงินสด |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 65 |
ข้อหารือ | : บริษัทฯ ได้เข้าประมูลซื้อบัญชีลูกหนี้เช่าซื้อจากสถาบันการเงิน 56 แห่งที่ถูกสั่งพักกิจการ โดยผ่านองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน ("ปรส.") และได้ทำการแปลงหนี้ใหม่ โดยบริษัทฯ เข้าเป็นผู้ให้เช่าซื้อตามสัญญาเช่าซื้อ และมีสิทธิรับเงินค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระหรือจะถึงกำหนดชำระตาม สัญญาจากลูกหนี้ผู้เช่าซื้อต่อไป เนื่องจากบัญชีลูกหนี้ของสถาบันการเงิน 56 แห่ง เป็นลูกหนี้ด้อยคุณภาพ และจะก่อให้เกิดหนี้สูญเป็นจำนวนมาก ปรส. จึงได้ขออนุมัติจากกรมสรรพากรให้ผู้ประมูลซื้อบัญชีลูกหนี้ สามารถเลือกคำนวณกำไรสุทธิตามเกณฑ์เงินสด ซึ่งจะไม่มีภาระภาษีเงินได้นิติบุคคลในหนี้ค่างวดที่ถึง กำหนดชำระแต่ยังไม่ได้รับจริง ทั้งนี้ เพื่อให้ ปรส.สามารถดำเนินการขายบัญชีลูกหนี้ได้ในราคาที่สูงขึ้น และเพื่อจูงใจให้มีผู้เข้าร่วมประมูลมากขึ้น บริษัทฯ ได้เลือกใช้เกณฑ์เงินสดในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับ รอบระยะเวลาบัญชีปี พ.ศ.2541 ตามหลักการที่กรมสรรพากรได้ให้ไว้กับ ปรส. และขอหารือดังต่อไปนี้ 1. บริษัทฯ รับรู้รายได้ค่างวดจากสัญญาเช่าซื้อเมื่อได้รับชำระจริงตามเกณฑ์เงินสด บริษัทฯ มีต้นทุนการซื้อบัญชีลูกหนี้ที่ได้จ่ายไปในรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกันเป็นจำนวนมาก และไม่ประสงค์จะ รับรู้ต้นทุนดังกล่าวเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น เนื่องจากจะมีผลให้เกิด ผลขาดทุนสูงมาก และจะยกยอดไปใช้ได้เพียง 5 รอบระยะเวลาบัญชี บริษัทฯ จึงใช้วิธีการคำนวณ กำไรสุทธิโดยใช้อัตราผลตอบแทน("IRR") ที่บริษัทฯประมาณการขณะเข้าประมูลซื้อบัญชีลูกหนี้จาก ปรส . คูณเข้ากับจำนวนเงินค่างวดที่ได้รับชำระจริงในรอบระยะเวลาบัญชีปี พ.ศ.2541 และในปีถัดมา บริษัทฯ จะปรับปรุงอัตราผลตอบแทนดังกล่าวทุก ๆ 3 เดือน โดยคำนึงถึงปริมาณเงินสดที่ได้รับชำระจาก ลูกหนี้ตั้งแต่แรก และปัจจัยเชิงสถิติอีกจำนวนหนึ่ง วิธีการนี้จะมีผลให้บริษัทฯ ไม่ต้องรับรู้รายจ่ายต้นทุน การซื้อบัญชีลูกหนี้ที่จ่ายไปแล้วทั้งจำนวน ซึ่งทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทันทีตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีแรก และมีภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นจำนวนทั้งสิ้น 146 ล้านบาท บริษัทฯ หารือว่าการคำนวณกำไรสุทธิของ บริษัทฯ โดยวิธีการดังกล่าวถือได้ว่าสอดคล้องกับเกณฑ์เงินสดแล้ว หรือไม่ 2. เนื่องจากเงินค่าเช่าซื้อแต่ละงวดตามสัญญาเช่าซื้อนั้น ประกอบด้วยเงินต้นและดอกเบี้ย เช่น สัญญาเช่าซื้อกำหนดให้ลูกค้าชำระเงินงวดละ 125 บาท ซึ่งประกอบไปด้วยเงินต้น 100 ดอกเบี้ย 25 บริษัทฯ ซื้อบัญชีลูกหนี้โดยผ่าน ปรส. ในราคา 40 เมื่อบริษัทฯ เลือกใช้เกณฑ์เงินสดในการคำนวณ กำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล บริษัทฯ จะต้องปรับใช้เกณฑ์ดังกล่าวทั้งในส่วนของเงินต้นและ ดอกเบี้ย ซึ่งได้แก่เงินค่างวด 125 ตามสัญญาเช่าซื้อทั้งจำนวน ใช่หรือไม่ |
แนววินิจฉัย | : 1. กรณีที่บริษัทฯ ซื้อบัญชีลูกหนี้เช่าซื้อจากสถาบันการเงิน 56 แห่งที่ถูกสั่งพักกิจการ โดย ผ่านองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน ("ปรส.") กรมสรรพากร ได้บรรเทาภาระภาษีโดยให้ เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเมื่อรับชำระราคาค่างวด แต่สำหรับการคำนวณรายจ่าย ให้ใช้หลักการจับคู่ ค่าใช้จ่ายกับรายได้ (MATCHING CONCEPT) กล่าวคือ เมื่อรับรู้รายได้ในงวดใดก็ต้องจัดสรรหรือเฉลี่ย รายจ่ายให้สัมพันธ์กับรายได้ในงวดนั้นตามวิธีการทางบัญชีที่รับรองทั่วไป 2. เมื่อบริษัทฯ เลือกใช้เกณฑ์เงินสดในการคำนวณกำไรสุทธิแล้ว บริษัทฯ จะต้องปรับใช้ เกณฑ์ดังกล่าวกับเงินค่างวดตามสัญญาเช่าซื้อทั้งจำนวน จะใช้เกณฑ์เงินสดในการรับรู้เงินต้น 100 และ ใช้เกณฑ์สิทธิในการรับรู้ดอกเบี้ย 25 ไม่ได้ |
เลขตู้ | : 62/28303 |