เลขที่หนังสือ | : กค 0811/พ.12498 |
วันที่ | : 13 ธันวาคม 2542 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับกิจการรับประกันวินาศภัย |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา79, คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.86/2542 |
ข้อหารือ | : บริษัท ก จำกัด ได้เรียกเก็บค่าเบี้ยประกันภัย และค่าอากรแสตมป์จากลูกค้า ผู้เอาประกันภัย บริษัทฯ จึงหารือว่า 1. การคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้คำนวณฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม จากเบี้ยประกันภัยสุทธิ บวกค่า อากรแสตมป์ หรือคำนวณฐานภาษีมูลค่าเพิ่ม จากเบี้ยประกันภัยสุทธิเท่านั้น 2. ภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณได้ จำเป็นต้องมีเศษสตางค์ทุกครั้งหรือไม่ มีความเห็นว่า การรับประกันวินาศภัยเข้าลักษณะเป็นการให้บริการ ตามมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จะต้องนำค่าเบี้ยประกัน และค่าอากรแสตมป์ที่ได้รับจาก ผู้เอาประกันมาเป็นฐานภาษีในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม เพราะถือเป็นมูลค่าทั้งหมดที่บริษัทฯ ได้รับ หรือ พึงได้รับจากการให้บริการตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร และหากการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มมีเศษ สตางค์ ต้องแสดงเศษสตางค์นั้นไว้ในใบกำกับภาษีด้วย |
แนววินิจฉัย | : 1. การประกอบธุรกิจรับประกันวินาศภัยถือเป็นการให้บริการ ตามมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากร โดยให้ผู้ประกอบการนำมูลค่าทั้งหมดที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการให้บริการ รวมถึง เงิน ทรัพย์สิน ค่าตอบแทน ค่าบริการ หรือประโยชน์ใด ๆ ซึ่งอาจคำนวณได้เป็นเงินมารวมเป็นมูลค่า ของฐานภาษีในการคำนวณเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น บริษัทฯ จะต้องนำค่าเบี้ยประกันและค่าอากรแสตมป์ที่ได้รับจากผู้เอาประกันภัยมา คำนวณเป็นฐานภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมด เพราะถือเป็นมูลค่าทั้งหมดที่บริษัทฯ ได้รับหรือพึงได้รับจากการ ให้บริการตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร 2. กรณีการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มและปรากฏว่ามีเศษสตางค์ ให้บริษัทฯ แสดงเศษสตางค์ นั้นไว้ในใบกำกับภาษีด้วย โดยถือปฏิบัติตามข้อ 4(6) แห่งคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.86/2542 เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดทำใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 และมาตรา 86/5 แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะที่มี ลักษณะเป็นแบบเต็มรูป ลงวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 |
เลขตู้ | : 62/28676 |