เลขที่หนังสือ | : กค 0811/12650 |
วันที่ | : 16 ธันวาคม 2542 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการคำนวณมูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา78(1)(ก), มาตรา79, มาตรา86/4 |
ข้อหารือ | : บริษัท A จำกัด และบริษัท B จำกัด ได้รับอนุญาตจากกระทรวงอุตสาหกรรมให้ดำเนิน กิจการจัดตั้งและประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม บริษัททั้งสองได้ทำสัญญาร่วมกันปฏิบัติการแบบ พันธมิตร (Operating Alliance) เพื่อบรรเทาภาระการขาดทุนอันเนื่องจากการตกต่ำลงเป็น อย่างมากของค่าการกลั่นน้ำมันทั่วโลก และสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของประเทศไทย ในการร่วม ปฏิบัติการแบบพันธมิตร บริษัททั้งสองจะแบ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้หลังจากการกลั่นแล้วบริษัทละครึ่งหนึ่งเสมอ และ บริษัททั้งสองจะขายผลิตภัณฑ์ที่ได้รับนั้นแยกจากกัน ทั้งนี้แม้ว่าในบางขณะโรงกลั่นใดโรงกลั่นหนึ่งมี ความจำเป็นต้องปิดชั่วคราวเพื่อทำการซ่อมแซม ทำให้จำนวนผลิตภัณฑ์ที่ได้หลังจากการกลั่นลดลง บริษัท ทั้งสองก็ยังคงแบ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้บริษัทละครึ่งหนึ่งเช่นกัน อย่างไรก็ดี เนื่องจากบริษัท A มีความต้องการ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเพื่อขายมากกว่าส่วนแบ่งที่ได้รับจากการผลิตตามสัญญาการปฏิบัติการแบบพันธมิตร ดังนั้น บริษัท B จึงต้องโอนกรรมสิทธิ์ในผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปไปให้แก่บริษัท A ซึ่งการโอนกรรมสิทธิ์ใน ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปนั้นไม่ก่อให้เกิดการเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์น้ำมันระหว่างบริษัททั้งสอง บริษัท B จึงไม่มี หน้าที่จะต้องนำส่งภาษีสรรพสามิตตามมาตรา 10(1) แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 บริษัททั้งสองหารือว่าภาษีสรรพสามิตที่ยังไม่เกิดขึ้นนี้ จะต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีตาม มาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่ หากต้องนำภาษีสรรพสามิตที่ยังไม่เกิดขึ้นมารวมคำนวณเป็น มูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร บริษัท B สามารถออกเอกสารใบกำกับภาษี/ ใบแจ้งหนี้ในฉบับเดียวกันเพื่อเรียกเก็บเงินจากลูกค้า ไปประกอบการพิจารณาได้หรือไม่ |
แนววินิจฉัย | : 1. กรณีบริษัท B ขายผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปให้แก่บริษัท A โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่บริษัท A แต่ไม่มีการเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์ระหว่างกัน บริษัท B ไม่ได้นำผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปออกจากโรง อุตสาหกรรม หรือไม่ได้นำผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปออกจากคลังสินค้าทัณฑ์บน ความรับผิดในอันจะต้องเสีย ภาษีสรรพสามิตเกิดขึ้นพร้อมกับความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ ตามมาตรา 10 (1) วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2534 เมื่อบริษัท B ขายผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปให้แก่บริษัท A โดยไม่มีการส่งมอบสินค้าแต่มีการโอนกรรมสิทธิ์สินค้า ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจึงเกิดขึ้น เมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์สินค้า ตามมาตรา 78(1)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้นความรับผิดในอันจะ ต้องเสียภาษีสรรพสามิตของบริษัท B จึงเกิดขึ้นพร้อมกับการโอนกรรมสิทธิ์ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปด้วย 2. ฐานภาษีสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการ ตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร ได้แก่ มูลค่าทั้งหมดที่ผู้ประกอบการได้รับหรือพึงได้รับจากการขายสินค้าหรือการให้บริการ รวมทั้ง ภาษีสรรพสามิตตามที่กำหนดในมาตรา 77/1(19) แห่งประมวลรัษฎากร ถ้ามี ด้วย ดังนั้น บริษัท B ต้องนำภาษีสรรพสามิตมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากรด้วย 3. บริษัท B สามารถจัดทำเอกสารใบกำกับภาษี/ใบแจ้งหนี้ ในเอกสารฉบับเดียวกันได้ แต่ใบกำกับภาษีต้องมีรายการอย่างน้อยตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งหากบริษัท B จะระบุ รายการอื่น ๆ นอกเหนือจากรายการตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร เพิ่มเติมในใบกำกับภาษี ก็สามารถกระทำได้ |
เลขตู้ | : 62/28708 |