เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/30026
วันที่: 5 มกราคม 2543
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการขายน้ำมันนอกเขตน่านน้ำไทย
ข้อกฎหมาย: มาตรา 65, มาตรา 77/2, คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.89/2543ฯ
ข้อหารือ: กลุ่มเรือประมงมีความประสงค์จะรวบรวมกลุ่มเรือที่ออกจับปลาในน่านน้ำสากลให้รวมเป็น
หนึ่งเดียวในรูปบริษัทจำกัด เพื่อดำเนินการซื้อน้ำมันจากต่างประเทศและเก็บไว้ในถังบนเรือขนาดใหญ่
ความจุ 200,000 - 1,000,000 ลิตร ที่ลอยลำอยู่ในน่านน้ำสากลทั้งฝั่งทะเลจีนใต้และฝั่งอันดามัน
และจำหน่ายน้ำมันให้แก่เรือที่เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดในราคาถูกเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตของเรือประมง ซึ่ง
เรือประมงที่ไปเติมน้ำมันจากเรือที่ลอยลำอยู่ในน่านน้ำสากลจะไม่นำน้ำมันเข้ามาในประเทศไทย แต่จะ
เติมเพื่อใช้ในการออกจับปลา และจะถ่ายเทปลาดังกล่าวให้แก่เรือบรรทุกที่ออกไปรับและนำกลับเข้าฝั่ง
เพื่อไปขายยังตลาดหรือสะพานปลาตามจังหวัดต่าง ๆ หลังจากนั้นเรือประมงจะชำระราคาค่าน้ำมันให้แก่
กลุ่มเรือประมง ซึ่งจะดำเนินการในรูปบริษัทจำกัด โดยมีสถานประกอบการที่เป็นสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่
อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร และบริษัทจะโอนเงินชำระค่าน้ำมันให้แก่ผู้ขายในต่างประเทศ กลุ่ม
เรือประมงได้หารือในเบื้องต้นกับกระทรวงพาณิชย์ซึ่งได้รับทราบว่า กลุ่มเรือประมงไม่เข้าลักษณะเป็น
ผู้ค้าน้ำมันเนื่องจากไม่มีคลังเก็บน้ำมันในประเทศไทย กลุ่มเรือประมงจึงหารือว่า
1. กลุ่มเรือประมงดำเนินการจดทะเบียนบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
โดยมีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการค้าน้ำมันนอกเขตน่านน้ำไทยได้หรือไม่
2. การซื้อน้ำมันจากต่างประเทศจะเก็บไว้ในถังบนเรือน้ำมันขนาดใหญ่ลอยอยู่ในน่านน้ำ
สากล ถือว่าบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นนั้นมีทรัพย์สินเป็นเรือน้ำมันหรือไม่ และต้องมีการจัดการเรื่องสต็อคน้ำมัน
ด้วยหรือไม่
3. รายได้จากการชำระเงินค่าน้ำมันถือเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่
4. หากการดำเนินงานของบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นมีกำไร บริษัทจะต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล
อย่างไร
แนววินิจฉัย: 1. กรณีกลุ่มเรือประมงมีความประสงค์จัดตั้งบริษัทจำกัด จะต้องติดต่อขอจดทะเบียนจัดตั้ง
บริษัทจำกัดกับกระทรวงพาณิชย์ และเมื่อประกอบกิจการขายน้ำมันนอกเขตน่านน้ำไทย บริษัทของกลุ่ม
เรือประมงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร โดยต้องเสีย
ภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิ ซึ่งคำนวณได้จากรายได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่กระทำใน
รอบระยะเวลาบัญชีหักด้วยรายจ่ายตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่ง
ประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร
2. กรณีบริษัทของกลุ่มเรือประมงซื้อน้ำมันจากต่างประเทศและเก็บน้ำมันไว้บนเรือที่ลอยลำ
อยู่ในน่านน้ำสากล นอกเขตน่านน้ำไทย เรือดังกล่าวไม่เข้าลักษณะเป็นสถานประกอบการในประเทศไทย
ของบริษัทตามมาตรา 77/1 (20) แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่ต้องจัดทำรายงานสินค้าและวัตถุดิบตาม
มาตรา 87 (3) แห่งประมวลรัษฎากร และกรณีบริษัทขายน้ำมันให้แก่เรือประมงโดยเรือประมงจะไปเติม
น้ำมันจากเรือที่ลอยลำอยู่ในน่านน้ำสากล และเรือประมงจะไม่นำน้ำมันเข้ามาในประเทศไทยตาม
ข้อเท็จจริงดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นการขายสินค้านอกราชอาณาจักร ไม่อยู่ในบังคับต้องเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร และข้อ 1 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.
89/2542 เรื่อง การขายสินค้านอกราชอาณาจักร โดยผู้ประกอบการจดทะเบียน ลงวันที่ 2 กันยายน
พ.ศ. 2542 บริษัทจึงไม่ต้องนำรายได้จากการรับชำระราคาค่าน้ำมันมาเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
เลขตู้: 63/28787

 


 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020