พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534 -------------------------- ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2534 เป็นปีที่ 46 ในรัชกาลปัจจุบัน | |||
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการประกอบกิจการขายสินค้าหรือการให้บริการบางกรณี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและมาตรา 81(1)(น) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 30) พ.ศ. 2534 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534 มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2534 เป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการประกอบกิจการขายสินค้า ดังต่อไปนี้ (1) การขายบุหรี่ซิกาแรตที่ผลิตโดยผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบที่เป็นองค์การของรัฐบาล โดยผู้ขายที่มิใช่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบที่ผลิตสินค้าดังกล่าว แต่ไม่รวมถึงผู้ขายที่เป็นคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านค้าปลอดอากร ( ยกเลิกตามพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 539) พ.ศ. 2555 ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป ) (2) การขายสลากกินแบ่งของรัฐบาล สลากออมสินของรัฐบาล และสลากบำรุงกาชาดไทย (3) การขายแสตมป์ไปรษณีย์ แสตมป์อากร หรือแสตมป์อื่นของรัฐบาล องค์การของรัฐบาล หรือองค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ เฉพาะที่ยังไม่ได้ใช้ในราคาที่ไม่เกินมูลค่าที่ตราไว้ (4) การบริจาคสินค้าให้แก่ (ก) สถานพยาบาลและสถานศึกษา ของทางราชการ (ข) องค์การหรือแก่สถานสาธารณกุศล หรือแก่สถานพยาบาลและสถานศึกษาอื่น นอกจากที่กล่าวใน (ก) ทั้งนี้ ตามที่รัฐมาตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 254) พ.ศ. 2535 ใช้บังคับ 1 มกราคม 2535 เป็นต้นไป) (ดูประกาศกระทรวงการคลัง ว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม หลักเกณฑ์การพิจารณาประกาศฯ) (ดูประกาศกระทรวงการคลัง ว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม ฉบับที่ 2 กำหนดองค์การ สาธารณกุศลฯ) (ดูประกาศกระทรวงการคลัง ว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม หลักเกณฑ์การพิจารณาประกาศให้มูลนิธิฯ) (5) การขายเหรียญที่ระลึกของกรมธนารักษ์เนื่องในวโรกาสสำคัญ ซึ่งกรมธนารักษ์เป็นผู้ผลิตหรือนำเข้าโดยได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และมีการนำรายได้จากการขายเหรียญ ดังกล่าวหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหรือถวายพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระบรมราชชนนี หรือพระบรมวงศานุวงศ์ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 649) พ.ศ. 2560 ใช้บังคับแก่การขายเหรียญที่ระลึกของกรมธนารักษ์ที่กรมธนารักษ์เป็นผู้นำเข้า ซึ่งกระทำตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป) (6) การขายทรัพย์สินขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 321) พ.ศ. 2541 ใช้บังคับ 25 ตุลาคม 2540 เป็นต้นไป) (7) การขายสินค้าของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 327) พ.ศ. 2541 ใช้บังคับ 1 กันยายน 2541 เป็นต้นไป) (8) การขายทรัพย์สินระหว่างนิติบุคคลเฉพาะกิจกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่เกิดขึ้นเนื่องจากการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 333) พ.ศ. 2541 ใช้บังคับ 6 พฤศจิกายน 2541 เป็นต้นไป) (ดูประกาศอธิบดีฯ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนทรัพย์สินตามโครงการการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์) (9) การขายสินค้าของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน และกองทุนรวมเพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 336) พ.ศ. 2541 ใช้บังคับ 12 พฤศจิกายน 2541 เป็นต้นไป) (10) การขายสินค้าของบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 343) พ.ศ. 2541 ใช้บังคับ 1 มกราคม 2542 เป็นต้นไป) (11) การขายสินค้าที่ได้กระทำในเขตพื้นที่พัฒนาร่วมตามกฎหมายว่าด้วยองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 347) พ.ศ. 2542 ใช้บังคับ 1 มกราคม 2535 เป็นต้นไป) (12) การขายทรัพย์สินของรัฐวิสาหกิจอันเนื่องมาจากการนำทุนบางส่วนหรือทั้งหมดมาเปลี่ยนสภาพเป็นหุ้นในรูปแบบของบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดตามกฎหมายว่าด้วยทุนรัฐวิสาหกิจ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 370) พ.ศ. 2543 ใช้บังคับ 30 ตุลาคม 2542 เป็นต้นไป) (13) การขายสินค้าของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้อง ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 401) พ.ศ. 2545 ใช้บังคับ 31 มกราคม 2545 เป็นต้นไป) (14) การขายน้ำมันดีเซลของผู้ประกอบการซึ่งเป็นผู้ค้าน้ำมัน สำหรับมูลค่าของฐานภาษีที่เกิดขึ้นจากการขายน้ำมันดีเซลให้แก่สถานีบริการจำหน่ายน้ำมันกลางทะเลในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักรไทยซึ่งกระทำตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2545 เป็นต้นไป โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด ผู้ค้าน้ำมัน หมายความว่า ผู้กระทำการค้าน้ำมันเชื้อเพลิงตามกฎหมาย ว่าด้วยการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ไม่รวมถึงผู้กลั่นหรือผู้ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงตามกฎหมายว่าด้วย การค้าน้ำมันเชื้อเพลิงหรือผู้ได้รับสัมปทานตามกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม น้ำมันดีเซล หมายความว่า น้ำมันดีเซลที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนด คุณภาพของน้ำมันดีเซลสำหรับการส่งไปขายในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักรไทยตามที่ กรมทะเบียนการค้าประกาศกำหนดและเป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพสามิตประกาศกำหนด และต้องเป็นน้ำมันดีเซลที่ได้ซื้อมาจากผู้ประกอบการจดทะเบียนผู้ผลิตซึ่งไม่ต้องนำมูลค่าของน้ำมันดีเซลนั้นมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79(4) แห่งประมวลรัษฎากร สถานีบริการจำหน่ายน้ำมันกลางทะเลในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักรไทย หมายความว่า เรือบรรทุกน้ำมันที่กรมศุลกากรอนุญาตให้ขนถ่ายน้ำมันดีเซลในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักรไทยเพื่อขายน้ำมันดีเซลให้แก่เรือจดทะเบียนสำหรับการประมงตามกฎหมายว่าด้วยเรือไทย เขตต่อเนื่องของราชอาณาจักรไทย หมายความว่า เขตต่อเนื่องของราชอาณาจักรไทย ตามพระบรมราชโองการประกาศเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักรไทย ลงวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2538 (15) การขายน้ำมันดีเซลของผู้ประกอบการซึ่งเป็นสถานีบริการจำหน่าย น้ำมันกลางทะเลในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักรไทย สำหรับมูลค่าของฐานภาษีที่เกิดขึ้นจากการขายน้ำมันดีเซลที่ผู้ประกอบการดังกล่าวได้ซื้อมาจากผู้ค้าน้ำมันตาม (14) ให้แก่เรือจดทะเบียนสำหรับการประมงตามกฎหมายว่าด้วยเรือไทยซึ่งกระทำตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2545 เป็นต้นไป โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 403) พ.ศ. 2545 ใช้บังคับ 23 กรกฎาคม 2545 เป็นต้นไป) (16) การขายสินค้าของคลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับแสดงและขายของที่เก็บในคลังสินค้าทัณฑ์บนนั้นตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรที่ตั้งอยู่ในสนามบินศุลกากร ให้แก่ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร สำหรับมูลค่าของฐานภาษีอันเนื่องมาจากการขายสินค้า ดังต่อไปนี้ (ก) สินค้าที่ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรซื้อเพื่อใช้เองเป็นการส่วนตัว หรือใช้ในวิชาชีพ ราคารวมกันไม่เกินสองหมื่นบาท (ข) สินค้าที่ใช้ในบ้านเรือนที่ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเนื่องจากการย้ายภูมิลำเนาซื้อ ราคารวมกันไม่เกินห้าหมื่นบาท (ค) บุหรี่ปริมาณไม่เกินสองร้อยมวน หรือซิการ์หรือยาเส้นปริมาณไม่เกินอย่างละสองร้อยห้าสิบกรัม หรือหลายชนิดรวมกันปริมาณไม่เกินสองร้อยห้าสิบกรัม แต่ทั้งนี้ บุหรี่ต้องมีปริมาณไม่เกินสองร้อยมวน (ง) สุราปริมาณไม่เกินหนึ่งลิตร ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 448) พ.ศ. 2549 ใช้บังคับ 24 มกราคม 2549 เป็นต้นไป) (17) การขายนมสดพลาสเชอไรซ์และนมสดยูเอชที ผสมฟลูออไรด์ ของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการนมฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุในประเทศไทย ภายใต้โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ซึ่งกระทำตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2543 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่อธิบดีประกาศกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 486) พ.ศ. 2552 ใช้บังคับ 18 พฤษภาคม 2552 เป็นต้นไป) (18) การขายสินค้าของสถาบันคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งกระทำตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 489) พ.ศ. 2552 ใช้บังคับ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป) (19) การขายสินค้าของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) ซึ่งกระทำตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 เป็นต้นไป (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 546) พ.ศ. 2555 ใช้บังคับ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป) (20) การขายทองคำแท่งตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งกระทำในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทั้งนี้ เฉพาะทองคำแท่งที่มีความบริสุทธิ์ร้อยละเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้า ที่ยังมิได้ประกอบขึ้นเป็นทองรูปพรรณหรือของรูปพรรณ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 662) พ.ศ. 2561 ใช้บังคับ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป)
มาตรา 4 ให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการประกอบกิจการให้บริการ ดังต่อไปนี้ (13) การให้บริการของสถาบันคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งกระทำตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป (14) การให้บริการของกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ และพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ (15) การให้บริการของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) ซึ่งกระทำตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 เป็นต้นไป (16) การให้บริการหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือตำราเรียน ที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการบางกรณีตามมาตรา 81(1)(น) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 30) พ.ศ.2534 เพื่อบรรเทาภาระภาษีและให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ |
(ร.จ.เล่ม 108 ตอนที่ 229 วันที่ 26 ธันวาคม 2534)