เลขที่หนังสือ | : กค 0811/172 |
วันที่ | : 1 มีนาคม 2543 |
เรื่อง | : ภาระภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร กรณีรายได้จากการให้กู้ยืมเงิน |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 65, มาตรา 91/2(5), มาตรา 104 |
ข้อหารือ | : นาย ก. ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดย แสดงว่ามีหนี้สินกับบริษัท ข. จำกัด เมื่อปี พ.ศ. 2540 เป็นหนี้เงินกู้จำนวน 100,000,000 บาท และ มีผู้กล่าวหาร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าหนี้สินจำนวนดังกล่าว เป็นเท็จ ซึ่งจากการตรวจสอบไม่ปรากฏหนี้จำนวนดังกล่าวในบัญชีงบดุลของบริษัทฯ ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 291 และมาตรา 293 คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติจึงขอทราบว่า หากบริษัทฯ ได้ให้ นาย ก. กู้ยืมเงินจริง แต่ไม่ได้ลงในบัญชีงบดุล บริษัทฯ จะมีความผิดต่อกฎหมายใด อย่างไร และกรมสรรพากรจะมีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการใน เรื่องดังกล่าวอย่างไร |
แนววินิจฉัย | : หากข้อเท็จจริงปรากฏว่า บริษัทฯ ได้ให้ผู้อื่นกู้ยืมเงิน และได้รับดอกเบี้ยจากการ ให้กู้ยืมเงินดังกล่าว บริษัทฯ มีภาระภาษีอากรซึ่งกรมสรรพากรมีอำนาจหน้าที่ในการเรียกเก็บตาม ประมวลรัษฎากร ดังนี้ 1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล ดอกเบี้ยที่บริษัทฯ ได้รับจากการให้ผู้อื่นกู้ยืมเงิน ถือเป็นรายได้เนื่องจากการ ประกอบกิจการ บริษัทฯต้องนำดอกเบี้ยจากการให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินมารวมกับรายได้อื่นเพื่อคำนวณกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่มีรายได้ นั้น 2. ภาษีธุรกิจเฉพาะ บริษัทฯ ให้ผู้อื่นกู้ยืมเงิน ถือเป็นการประกอบกิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์อยู่ในบังคับ ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/2(5) แห่งประมวลรัษฎากร และรายรับจากดอกเบี้ยของ บริษัทฯ คือฐานภาษีในการคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/5(5) แห่งประมวลรัษฎากร 3. อากรแสตมป์ สัญญากู้ยืมเงินของบริษัทฯ ถือเป็นตราสารที่ระบุไว้ในบัญชีอัตราอากรแสตมป์ จึงต้อง ปิดแสตมป์ตามอัตราที่กำหนดไว้ในบัญชี ตามมาตรา 104 แห่งประมวลรัษฎากร ในอัตราทุกจำนวนเงิน 2,000 บาท แห่งวงเงินให้กู้ยืม ต่อค่าอากรแสตมป์ 1 บาท แต่เมื่อคำนวณค่าอากรแล้วเกิน 10,000 บาท ให้เสีย 10,000 บาท 4. กรณีบริษัทฯ ไม่ได้ดำเนินการเพื่อการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ กรมสรรพากรมีอำนาจตามประมวลรัษฎากรที่จะประเมินเรียกเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามข้อ 1 และข้อ 2 ดังกล่าวข้างต้น พร้อมเรียกเก็บเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม และกรณีบริษัทฯ มิได้ ปิดแสตมป์บริบูรณ์ในตราสาร กรมสรรพากรมีอำนาจตามประมวลรัษฎากรที่จะเรียกเก็บเงินอากรจนครบ ตามข้อ 3 พร้อมเรียกเก็บเงินเพิ่มอากรด้วย |
เลขตู้ | : 63/28970 |