เมนูปิด

พระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 205)
พ.ศ. 2532
--------------------------
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2532
เป็นปีที่ 44 ในรัชกาลปัจจุบัน

                    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

                    อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและมาตรา 3 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

                    มาตรา 1  พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 250) พ.ศ. 2532”

                    มาตรา 2  พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่มาตรา 3 ให้ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2532 เป็นต้นไป

                    มาตรา 3  ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน 2 หมวด 3 ในลักษณะ 2แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่กองทุนเฉพาะกิจที่จัดตั้งขึ้นในหมู่บ้านเพื่อดำเนินงานหาประโยชน์และให้บริการแก่ประชาชนส่วนรวมในหมู่บ้าน ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนพัฒนาชนบท สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับจากการดำเนินกิจการในโครงการที่ได้รับเงินยืมสมทบจากองทุนพัฒนาชนบท ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังกล่าว เฉพาะจำนวนเงินได้พึงประเมินในส่วนที่ไม่เกิน 550,000 บาท ต่อปี และเฉพาะโครงการที่มีการใช้คืนเงินยืมสมทบตามแผนการใช้คืนเงินยืมสมทบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น

                    มาตรา 4  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ
นายกรัฐมนตรี

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้แก่กองทุนเฉพาะกิจ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนพัฒนาชนบท สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับจากการดำเนินกิจการในโครงการที่ได้รับเงินยืมสมทบจากองทุนพัฒนาชนบท ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว บางกรณีเพื่อสนับสนุนแนวนโยบายการพัฒนาชนบทแห่งชาติให้ประชาชนในชนบทรวมกลุ่มกันเพื่อพัฒนาหมู่บ้านของตนเองได้ จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

 

(ร.จ.เล่ม 106 ตอนที่ 120 วันที่ 1 สิงหาคม 2532)

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 10-02-2022