เลขที่หนังสือ | : กค 0811/2459 |
วันที่ | : 28 มีนาคม 2543 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการโอนสิทธิการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 77/1 (8), มาตรา 86, มาตรา 89 |
ข้อหารือ | : บริษัทหลักทรัพย์ อ. จำกัด เกิดจากการแยกธุรกิจหลักทรัพย์ออกจากธุรกิจเงินทุนของ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ บ. จำกัด ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกำหนดเงื่อนไขให้ ผู้ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ที่เป็นบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์แยกธุรกิจเงินทุนและธุรกิจหลักทรัพย์ ออกจากกัน ลงวันที่ 23 กรกฎาคมพ.ศ.2541 และบริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้เริ่มดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2542 ต่อมาผู้ถือหุ้นใหญ่คือธนาคาร พ*. จำกัด ต้องการรวมบริษัทในเครือที่ ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ไว้แห่งเดียวกัน จึงกำหนดให้บริษัทฯ โอนธุรกิจและลูกค้าให้กับ บล*. ท. จำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2542 ซึ่งบริษัทฯ ได้โอนการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ บล*. ท. จำกัด ด้วยโดยบริษัทฯ ไม่ได้เรียกเก็บเงินค่าสิทธิการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์จาก บล*. ท. จำกัด เนื่องจาก บงล. บ. จำกัด ได้เป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย ประมาณปี 2523 โดยไม่เสียค่าสมาชิก และเมื่อมีการแยกธุรกิจหลักทรัพย์ออกจาก ธุรกิจเงินทุน บงล.บ. จำกัด ได้โอนการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ให้กับบริษัทฯ โดยไม่ได้ เรียกเก็บเงินจากบริษัทฯดังนั้น เมื่อบริษัทฯ ต้องโอนธุรกิจและลูกค้าให้กับ บล*. ท. จำกัด จึงไม่ได้ เรียกเก็บเงินค่าสมาชิกตลาดหลักทรัพย์เช่นเดียวกันบริษัทฯ เข้าใจว่า 1. เมื่อ บงล. บ. จำกัด ได้เป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ โดยไม่ถูกเรียกเก็บเงินค่า สมาชิกตลาดหลักทรัพย์และเป็นรายการที่เกิดก่อนที่จะมีการนำกฎหมายว่าด้วยภาษีมูลค่าเพิ่มมาใช้ ดังนั้น การโอนการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ภายหลังที่นำกฎหมายว่าด้วยภาษีมูลค่าเพิ่มมาใช้แล้ว ไม่ต้องนำมา คำนวณเพื่อเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเช่นเดียวกัน 2. การเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ไม่เป็นสินค้าและบริการที่เข้าข่ายต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจาก บริษัทฯ ไม่มีเจตนาที่จะนำการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์มาซื้อขายเพื่อหาผลประโยชน์ 3. บริษัทฯ ได้รับโอนการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์จาก บงล. บ. จำกัด ด้วยราคาตาม คำสั่งของกรมสรรพากร ที่ ป.57/2538 ฯลฯ ลงวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2538 ซึ่งราคาของการเป็น สมาชิกตลาดหลักทรัพย์ของ บงล. บ. จำกัด มีค่าเป็นศูนย์ ดังนั้น เมื่อบริษัทฯ โอนการเป็นสมาชิก ตลาดหลักทรัพย์ให้ บล*. ท. จำกัด จึงโอนตามราคาที่เป็นศูนย์เช่นเดียวกัน 4. การโอนการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ดังกล่าว กระทำตามนโยบายการโอนธุรกิจ บริษัทในเครือธนาคารให้ลดน้อยลงตามภาวะเศรษฐกิจ ไม่ใช่การโอนเพื่อหาผลประโยชน์จากการเป็น สมาชิกตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้น จึงไม่เป็นรายการปกติอื่น ๆ ที่ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทฯ จึงหารือว่า การที่บริษัทฯ โอนการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ดังกล่าว บริษัทฯ ไม่ต้องตีมูลค่าของการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์เพื่อเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจาก บล*. ท. จำกัด ถูกต้องหรือไม่ หากความเข้าใจของบริษัทฯ ไม่ถูกต้อง บริษัทฯ จะต้องออกใบกำกับภาษีและเรียกเก็บ ภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อใด เมื่อบริษัทฯ ตีมูลค่าสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ได้เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ และหากต้อง เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและออกใบกำกับภาษีในวันโอนการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์แล้ว ขณะนี้บริษัทฯ ยังไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด จึงขอให้แนะนำวิธีการออกใบกำกับภาษีรวมทั้งวันที่ที่ต้องระบุใน ใบกำกับภาษี และขอให้ยกเว้นเบี้ยปรับ และเงินเพิ่มจากการยื่นชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม และ ออกใบกำกับภาษีล่าช้ากว่าที่กำหนดให้ด้วย เนื่องจากบริษัทฯ ไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงการเสียภาษี และเป็น ผู้เสียภาษีที่ดีตลอดมา |
แนววินิจฉัย | : 1. บริษัทฯ โอนสิทธิการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ให้กับ บล*. ท. จำกัด ซี่ง*เป็นการ โอนทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/1(8) แห่ง ประมวลรัษฎากร บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากมูลค่าของฐานภาษี ตามมาตรา 79 แห่ง ประมวลรัษฎากร โดยต้องมีราคาไม่ต่ำกว่าราคาตลาดในวันที่มีการโอนสิทธินั้น 2. ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อได้รับชำระราคาสินค้า เว้นแต่ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์สินค้า หรือออกใบกำกับภาษีก่อน ตามข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 189 (พ.ศ. 2534)ฯลฯ กรณีบริษัทฯ ได้โอนการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ให้กับ บล*. ท. จำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2542 บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ต้องจัดทำใบกำกับภาษีเมื่อมีการโอนตามมาตรา 86 แห่ง ประมวลรัษฎากร 3. บริษัทฯ มิได้ออกใบกำกับภาษี และมิได้เสียภาษีตาม 2. จึงต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับ ตามมาตรา 89(3)(4) และ (5) แห่งประมวลรัษฎากร แต่กรณีมีเหตุอันควรผ่อนผัน จึงงดเบี้ยปรับ ตามมาตรา 89 แห่งประมวลรัษฎากรให้ สำหรับเงินเพิ่ม ตามกฎหมายไม่อาจงดหรือลดให้ได้ |
เลขตู้ | : 63/29070 |