เลขที่หนังสือ | : กค 0811/2880 |
วันที่ | : 11 เมษายน 2543 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีขอยกเว้นภาษีสำหรับเงินได้ที่ได้รับจากทุนอุดหนุนการวิจัย |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 46, มาตรา 56 |
ข้อหารือ | : นาย ส. ปฏิบัติราชการอยู่ที่ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ได้รับทุนอุดหนุน การวิจัย เรื่อง การศึกษาระดับแคดเมียมและโครเมียมในเลือดและในปัสสาวะของกลุ่มคนสุขภาพ แข็งแรงที่ไม่ได้ทำงานสัมผัสกับโลหะหนัก และกลุ่มคนที่ทำงานสัมผัสกับแคดเมียมและโครเมียม จาก สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม โดยทำสัญญารับทุนศึกษาวิจัย เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2542 มีกำหนดเวลา 12 เดือน จำนวนทุนวิจัยเหมาจ่ายเป็นเงิน 273,000 บาท แบ่งจ่าย เงินเป็น 3 งวด ตามผลสำเร็จของงาน ดังนี้ งวดที่ 1 จำนวนเงิน 81,900 บาท งวดที่ 2 จำนวนเงิน 136,500 บาท งวดที่ 3 จำนวนเงิน 54,600 บาท ในการศึกษาวิจัยดังกล่าว นาย ส. เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย สำนักงานประกันสังคมได้ สั่งจ่ายเงินทุนวิจัยในนามของ นาย ส. โดยได้จ่ายเงินงวดที่ 1 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2542 โครงการวิจัยดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม เพื่อหามาตรการ ป้องกันโรคจากการทำงานโดยเฉพาะ โดยกลุ่มผู้วิจัยมิได้รับเงินค่าตอบแทนเพื่อประโยชน์ส่วนตนใด ๆ ทั้งสิ้น เงินวิจัยทั้งหมดที่ได้รับเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับเครื่องมือและการวิเคราะห์ต่าง ๆ และผลงาน การวิจัยตกเป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานประกันสังคม ดังนั้น เพื่อให้งานวิจัยดังกล่าวบรรลุเป้าหมาย จึง ขอให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินที่ได้รับจากเงินทุนวิจัยดังกล่าว |
แนววินิจฉัย | : 1. การที่สำนักงานประกันสังคมทำสัญญาให้ทุนศึกษาวิจัย ในลักษณะเหมาจ่ายเป็นเงิน 273,000 บาท โดยแบ่งจ่ายเป็น 3 งวด ตามผลสำเร็จของงานที่กำหนดในสัญญา และเงินทุนที่จ่ายถูก นำไปใช้จ่ายสำหรับค่าเครื่องมือและการวิเคราะห์ต่าง ๆ โดยผลงานวิจัยตกเป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงาน ประกันสังคม เข้าลักษณะเป็นการจ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร การ จ่ายเงินดังกล่าวจึงไม่เข้าลักษณะเป็นรางวัลเพื่อการศึกษาหรือค้นคว้าในวิทยาการที่ได้รับยกเว้นไม่ต้อง นำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 42(11) แห่งประมวลรัษฎากร 2. เนื่องจากโครงการวิจัยดังกล่าว นาย ส. เป็นหัวหน้าโครงการ โดยมีบุคคลอื่นร่วม ปฏิบัติงานวิจัยด้วยจึงถือว่าผู้ร่วมโครงการวิจัยเป็นคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ดังนั้น เงินทุนศึกษาวิจัยที่ได้ รับจึงต้องนำไปเสียภาษีเงินได้ในนามของคณะบุคคล ตามมาตรา 56 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร โดยให้หักค่าใช้จ่ายได้ตามความจำเป็นและสมควร ตามมาตรา 46 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับ พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2502 |
เลขตู้ | : 63/29149 |