เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/4332
วันที่: 30 พฤษภาคม 2543
เรื่อง: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีเงินได้ค่าตอบแทนอนุกรรมการ
ข้อกฎหมาย: มาตรา 42(7)
ข้อหารือ: สำนักงาน ป.ป.ช. ได้หารือกรมสรรพากรเกี่ยวกับระเบียบคณะกรรมการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยค่าตอบแทนอนุกรรมการ พ.ศ. 2543 ซึ่งได้กำหนดให้บุคคลที่
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบ
รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ได้รับค่าตอบแทนในอัตราครั้งละ
1,000 บาท แต่รวมกันแล้วไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท ประธานอนุกรรมการได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น
อีกหนึ่งในสี่ของค่าตอบแทนอนุกรรมการ กรรมการ ป.ป.ช. ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานอนุกรรมการ
หรืออนุกรรมการ ได้รับค่าตอบแทนรวมกันแล้วไม่เกินเดือนละ 12,500 บาทและเลขานุการ ผู้ช่วย
เลขานุการของคณะอนุกรรมการได้รับค่าตอบแทนในอัตราเดียวกันกับอนุกรรมการ สำนักงาน ป.ป.ช.
จึงหารือว่า ค่าตอบแทนอนุกรรมการที่บุคคลได้รับเป็นรายครั้งดังกล่าว เป็นเงินได้พึงประเมินที่ต้องนำ
มารวมคำนวณภาษีเงินได้หรือไม่
แนววินิจฉัย: เงินค่าตอบแทนที่สำนักงาน ป.ป.ช. จ่ายให้แก่อนุกรรมการตามข้อเท็จจริงดังกล่าวมี
ลักษณะเป็นเบี้ยประชุมตามข้อ 4 แห่งระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ว่าด้วยค่าตอบแทนอนุกรรมการ พ.ศ.2543 แต่เนื่องจากเป็นการจ่ายให้แก่อนุกรรมการ มิใช่
กรรมาธิการหรือกรรมการ ตามนัยมาตรา 42(7) แห่งประมวลรัษฎากร ที่จะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำ
มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตราดังกล่าวกรณีถือเป็นเงินได้จากหน้าที่หรือ
ตำแหน่งงานที่ทำตามมาตรา 40(2) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งผู้มีเงินได้พึงประเมินดังกล่าว ต้องนำ
เงินได้ไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามมาตรา 48 แห่งประมวลรัษฎากร
เลขตู้: 63/29368

 


 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020