เลขที่หนังสือ | : กค 0811/พ.4624 |
วันที่ | : 7 มิถุนายน 2543 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีโอนสิทธิตามประทานบัตร |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 77/1, มาตรา 86/10 |
ข้อหารือ | : องค์การเหมืองแร่ในทะเล (อ.ม.ท.) เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม จัดตั้งโดยพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การเหมืองแร่ในทะเล พ.ศ. 2518 ซึ่งต่อมามีพระราชกฤษฎีกา ยุบเลิกองค์การเหมืองแร่ในทะเล พ.ศ. 2540 ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การเหมืองแร่ใน ทะเล พ.ศ. 2518 แต่องค์การเหมืองแร่ในทะเลซึ่งได้ยุบเลิกไปนั้น ให้ยังคงตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาที่ จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี ตามมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกายุบเลิกองค์การเหมืองแร่ในทะเล พ.ศ. 2540 ขณะนี้คณะกรรมการผู้ชำระบัญชีที่ได้รับแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่าง ดำเนินการชำระบัญชี โดยชำระหนี้สินและจำหน่ายทรัพย์สินต่าง ๆ ซึ่งได้แก่ เรือประทานบัตรเหมืองแร่ ในทะเล และทรัพย์สินอื่น ๆ ในการจำหน่ายสิทธิตามประทานบัตรเหมืองแร่ในทะเลนั้น อ.มาตราท. ได้ ทำสัญญาจะรับโอนสิทธิตามประทานบัตรกับ บริษัท ท. จำกัด เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2542 ตามสัญญานี้ แบ่งการชำระเงินเป็น 3 งวด และ อ.ม.ท. ได้รับชำระเงินจากบริษัทฯ แล้ว 2 งวด คือ งวดที่ 1 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2542 จำนวน 200,000 บาท งวดที่ 2 เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2543 จำนวน 1,400,000 บาท สำหรับงวดที่ 3 บริษัทฯ จะต้องชำระเงินจำนวน 400,000 บาท ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ อ.ม.ท. แจ้งให้ทราบถึงการอนุญาตให้โอนประทานบัตรได้ ทั้งนี้ การโอน ประทานบัตรจะต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และบริษัทฯ ต้องชำระ ค่าธรรมเนียม ค่าจดทะเบียน ค่าตอบแทนการโอน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 แต่หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมไม่เห็นชอบและหรือไม่อนุญาตให้โอนประทานบัตร ให้ ถือว่าสัญญานี้เป็นอันยกเลิกตามความในข้อ 6 ของสัญญา ซึ่ง อ.ม.ท. จะต้องคืนเงินจำนวน 1,600,000 บาท ให้แก่บริษัทฯ ทั้งหมด อ.ม.ท. จึงขอหารือเกี่ยวกับการชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนี้ 1. โดยที่ อ.ม.ท. มิได้มีวัตถุประสงค์ในการโอนขายสิทธิตามประทานบัตรในทางธุรกิจ การโอนสิทธิตามประทานบัตรเหมืองแร่กรณีนี้ อยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ และบุคคลใด เป็นผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 2. กรณี อ.ม.ท. มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม อ.ม.ท. ไม่ต้องออกใบกำกับภาษีกรณีรับ ชำระเงินค่างวด 2 งวด จำนวน 1,600,000 บาท ได้หรือไม่ เนื่องจากถือว่าเงินดังกล่าวเป็นเงิน จองหรือเงินมัดจำ ซึ่งหากไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมให้โอนประทานบัตร อ.ม.ท. จะต้องคืนเงินดังกล่าวให้แก่บริษัทฯ ทั้งหมด ทั้งนี้ ตามมาตรา 78(2) แห่งประมวลรัษฎากร และข้อ 5(1) ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.36/2536 เรื่อง การขายสินค้าตามสัญญาให้เช่าซื้อหรือ สัญญาซื้อขายผ่อนที่ชำระกรรมสิทธิ์ในสินค้ายังไม่ได้โอนไปยังผู้ซื้อ เมื่อได้ส่งมอบ ตามมาตรา 78(2) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 และเมื่อได้รับชำระงวดที่ 3 อีกจำนวน 400,000 บาท อ.ม.ท. จะออกใบกำกับภาษีเพียง 1 ฉบับ โดยคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มจากเงินจำนวน 2,000,000 บาท |
แนววินิจฉัย | : 1. สิทธิตามประทานบัตรเป็นทรัพย์สินที่ไม่มีรูปร่างที่อาจมีราคาและถือเอาได้ไม่ว่าจะมีไว้ เพื่อขาย เพื่อใช้หรือเพื่อการใด ๆ เข้าลักษณะเป็นสินค้า ตามมาตรา 77/1(9) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น การโอนสิทธิตามประทานบัตร จึงเข้าลักษณะเป็นการขายสินค้าที่ไม่มีรูปร่าง ตามมาตรา 77/1(8) แห่งประมวลรัษฎากร อ.ม.ท. ผู้โอนสิทธิตามประทานบัตรจึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นเมื่อ ได้รับชำระราคาค่าสินค้าที่ไม่มีรูปร่าง ตามมาตรา 78/3(1) แห่งประมวลรัษฎากรและข้อ 2 ของ กฎกระทรวง ฉบับที่ 189 (พ.ศ. 2534)ฯ ลงวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2534 2. กรณี อ.ม.ท. รับชำระเงินตามสัญญาโอนสิทธิตามประทานบัตรงวดที่ 1 และงวดที่ 2 รวม 1,600,000 บาท ถือเป็นการรับชำระราคาค่าสินค้าที่ไม่มีรูปร่าง ซึ่งมีข้อตกลงให้แบ่งชำระได้ ไม่ เข้าลักษณะเป็นเงินจองหรือเงินมัดจำที่ชำระล่วงหน้าให้แก่ผู้ขายก่อนทำการตกลงว่าจะซื้อขายสินค้าใน ลักษณะซื้อขายเสร็จเด็ดขาดหรือซื้อขายตามสัญญาให้เช่าซื้อ ซึ่งหากไม่มีการทำสัญญาซื้อขายให้สำเร็จ บริบูรณ์ต้องมีการคืนเงินจองหรือเงินมัดจำ ตามข้อ 5(1) ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.36/2536 ฯ ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 ดังนั้น อ.ม.ท. จึงมีหน้าที่ต้องจัดทำใบกำกับภาษีเมื่อความรับผิด ในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น 3. กรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมไม่เห็นชอบและหรือไม่อนุญาตให้โอนสิทธิ ตามประทานบัตรซึ่ง อ.ม.ท. มีหน้าที่ต้องคืนเงินที่ได้รับชำระแล้วทั้ง 2 งวด อ.ม.ท. ต้องออกใบลดหนี้ ตามมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่ บริษัท ท. จำกัด ทั้งนี้ ตามมาตรา 82/10(1) และ (3) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2(2) แห่งประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 82) เรื่อง กำหนดเหตุอื่น ตามมาตรา 82/10(1)(2)(3) และ (4) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2542 |
เลขตู้ | : 63/29410 |