เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/5834
วันที่: 14 กรกฎาคม 2543
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการยกเว้นภาษีเงินได้จากเงินปันผล
ข้อกฎหมาย: มาตรา 34, พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520
ข้อหารือ: บริษัทฯ ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนออกให้
ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2530 ซึ่งในบัตรส่งเสริมระบุว่าให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 7 ปี
ปัจจุบันสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคลในบัตรดังกล่าวได้หมดไปแล้ว ต่อมาในปี 2541 บริษัทฯ ได้
รับการส่งเสริมการลงทุนเพิ่มอีก 1 บัตรลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2541 ซึ่งในบัตรส่งเสริมระบุว่าได้รับ
การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 3 ปี และประเภทกิจการที่ได้รับการส่งเสริมเป็นกิจการ
เดียวกันกับบัตรส่งเสริมฉบับแรก บริษัทฯ จึงหารือว่า ถ้าบริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมของ
บัตรส่งเสริมฉบับเดิม ผู้รับเงินปันผลดังกล่าวจะต้องนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้หรือไม่
แนววินิจฉัย: เงินปันผลที่ผู้รับเงินปันผลได้รับจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งได้รับ
ยกเว้นเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 จะได้รับ
ยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนฯ
ต่อเมื่อเงินปันผลดังกล่าวจ่ายจากกำไรสุทธิของกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล และจะต้องเป็น
เงินปันผลที่ผู้ได้รับการส่งเสริมจ่ายและผู้รับเงินปันผลได้รับในระหว่างระยะเวลาที่ผู้ได้รับการส่งเสริมได้
รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ทั้งนี้ตามประกาศกรมสรรพากร เรื่องการคำนวณกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิ
ของบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530
ดังนั้น กรณีที่บริษัทฯ ประสงค์จะนำกำไรสะสมของกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
ตามบัตรส่งเสริมการลงทุนฉบับเดิม มาจ่ายเป็นเงินปันผลให้ปีอื่น ๆ ที่มิใช่ระยะเวลาที่บริษัทฯ ได้รับการ
ส่งเสริมการลงทุนตามบัตรส่งเสริมฉบับดังกล่าว เงินปันผลที่ได้รับจากบริษัทฯ ในกรณีดังกล่าวย่อมไม่ได้
รับการยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520 และผู้รับเงิน
ปันผลจะต้องนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้
เลขตู้: 63/29568

 


 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020