เลขที่หนังสือ | : กค 0811/31369 |
วันที่ | : 31 กรกฎาคม 2543 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีรายได้ของกิจการคลังสินค้าที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 65 |
ข้อหารือ | : บริษัทฯ ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการคลังสินค้า โดยได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้น ภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่ได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริม มีกำหนดเวลาแปดปี นับแต่วันที่กิจการเริ่มมีรายได้ บริษัทฯ ได้ประกอบกิจการรับฝากสินค้าประเภทคลังสินค้า มีหน้าที่ดูแล รับผิดชอบคุณภาพของสินค้าให้อยู่ในมาตรฐานที่กำหนด โดยมีรายได้เป็น รายได้ค่าบริการคลังสินค้า จากการรับฝากสินค้าและ รายได้ค่ารักษาคุณภาพจากการรักษาคุณภาพของสินค้า บริษัทฯ เข้าใจว่า รายได้ทั้งสองประเภทถือเป็นรายได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน จะถูกต้อง หรือไม่ สำนักงานสรรพากรภาค เห็นว่า บริษัทฯ ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการคลังสินค้า ประเภทคลังน้ำมันปาล์ม มีหน้าที่เก็บรักษาน้ำมันปาล์มที่มีผู้นำมาฝาก เพื่อบำเหน็จเป็นทางค้าปกติของตน ตามมาตรา 770 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังและใช้ ฝีมือเพื่อสงวนทรัพย์สินนั้นตลอดจนการใช้ฝีมืออันพิเศษเฉพาะการและสมควรจะต้องใช้ในกิจการค้าขาย หรืออาชีวะอย่างนั้นด้วย ตามมาตรา 659 ประกอบมาตรา 771 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แม้บริษัทฯ จะกำหนดรายรับเป็น รายได้ค่าบริการคลังสินค้า ส่วนหนึ่งและ รายได้ค่ารักษาคุณภาพ อีกส่วนหนึ่งก็ตาม รายได้ทั้งสองประเภทก็ยังถือเป็นรายได้จากการประกอบกิจการคลังสินค้าที่ได้รับการ ส่งเสริมการลงทุน อันได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลภายในระยะเวลาที่กำหนด |
แนววินิจฉัย | : การที่บริษัทฯ ประกอบกิจการรับฝากสินค้าโดยมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบคุณภาพของสินค้าให้อยู่ ในมาตรฐานที่กำหนด โดยได้เรียกเก็บค่าบริการคลังสินค้าและค่ารักษาคุณภาพสินค้า ถือได้ว่าบริษัทฯ เป็นผู้รับทำการเก็บรักษาสินค้าเพื่อบำเหน็จเป็นทางค้าปกติของตน เข้าลักษณะเป็นการประกอบกิจการ คลังสินค้า ตามมาตรา 770 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้น รายได้ของบริษัทฯ จาก ค่าบริการคลังสินค้าและค่ารักษาคุณภาพสินค้าจึงถือเป็นรายได้จากการประกอบกิจการคลังสินค้าที่ได้รับ การส่งเสริมการลงทุน ซึ่งได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลภายในระยะเวลาที่กำหนด |
เลขตู้ | : 63/29625 |