เลขที่หนังสือ | : กค 0811/ก.1172 |
วันที่ | : 2 ตุลาคม 2543 |
เรื่อง | : ภาระภาษีอากรจากการจ่ายเงินชดเชยตามสัญญาร่วมลงทุน |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 65 |
ข้อหารือ | : กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินได้หารือปัญหาภาษีอากรเกี่ยวกับมาตรการ ฟื้นฟูระบบสถาบันการเงินวันที่ 14 สิงหาคม 2541 ที่ให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบ สถาบันการเงินขายหุ้นของธนาคารพาณิชย์ที่กองทุนฯ ถือให้แก่ผู้ร่วมทุนรายใหม่ในการซื้อหุ้นของ ธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวจะมีผลให้ผู้ร่วมลงทุนมีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นของธนาคารพาณิชย์ กองทุนฯ ได้ทำสัญญา ชดเชยความเสียหายจากการซื้อหุ้นดังกล่าวต่อผู้ร่วมลงทุนโดยมีการรับประกันหนี้ดังกล่าว 2 ส่วน คือ - ส่วนที่ 1 (50 เปอร์เซ็นต์แรกของจำนวนหนี้) กองทุนฯ รับประกันเต็มจำนวนกล่าวคือ ใน ส่วนแรกนี้หากเรียกเก็บเงินได้ไม่ครบตามจำนวนกองทุนฯ จะชำระให้จนครบ - ส่วนที่ 2 (50 เปอร์เซ็นต์หลังของจำนวนหนี้) กองทุนฯ จะรับประกันร้อยละ 85 ส่วนที่ เหลือผู้ร่วมลงทุนจะรับภาระเอง กล่าวคือ ในส่วนที่ 2 หากเรียกเก็บได้ไม่ครบตามจำนวน กองทุนฯ จะ ชำระให้เพียงร้อยละ 85 ของหนี้จำนวนนี้ กองทุนฯ จึงขอหารือ ดังนี้ 1. กรณีที่ธนาคารพาณิชย์มีผลขาดทุนจากการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพที่เป็นลูกหนี้ เงินกู้ที่มีอยู่ก่อน ที่ผู้เข้าร่วมลงทุนจะเข้ามาบริหารกิจการ กองทุนฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหาย ดังกล่าว โดย กองทุนฯ จะจ่ายเงินชดเชยผลขาดทุนนั้นให้ธนาคารพาณิชย์ตามสัดส่วนที่ตกลงกัน เงินที่กองทุนฯ จ่าย ชดเชยให้ธนาคารพาณิชย์นี้จะเป็นการจ่ายชดเชยให้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยที่ธนาคารได้บันทึกบัญชีแล้ว กองทุนฯ จึงขอหารือว่า เงินชดเชยดังกล่าวธนาคารพาณิชย์ต้องนำไปเสียภาษีเงินได้และ ภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่ อย่างไร 2. หากธนาคารสามารถเรียกเก็บหนี้ด้อยคุณภาพได้มากกว่าเกณฑ์ที่กำหนดในสัญญา กองทุนฯ จะจ่ายผลตอบแทนเพิ่มเติมให้แก่ธนาคารพาณิชย์ตามอัตราที่ตกลง กองทุนฯ จึงขอหารือว่า ธนาคารพาณิชย์จะมีภาระภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่อย่างไร 3. ในการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ หากธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บดอกเบี้ยได้ต่ำกว่า ดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ต้องจ่ายให้แก่ผู้ฝากเงิน กองทุนฯ จะต้องจ่ายเงินชดเชยส่วนขาด ดังกล่าวให้แก่ธนาคารพาณิชย์ กองทุนฯ จึงขอหารือว่าธนาคารพาณิชย์จะมีภาระภาษีเงินได้และ ภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่อย่างไร |
แนววินิจฉัย | : การทำสัญญาชดเชยความเสียหายในลักษณะดังกล่าว ซึ่งมิได้เป็นการชำระหนี้แทน ลูกหนี้ของ ธนาคารพาณิชย์ โดยธนาคารพาณิชย์ยังมีสิทธิที่จะเรียกร้องจากลูกหนี้ของธนาคารได้ทั้งจำนวนแม้ว่าจะได้ รับเงินชดเชยจากกองทุนฯ แล้วก็ตาม ดังนั้น 1. กรณีที่ธนาคารพาณิชย์มีผลขาดทุนจากการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพที่เป็นลูกหนี้ก่อนที่ผู้เข้าร่วม ลงทุนจะเข้ามาบริหารกิจการ หากกองทุนฯ จะจ่ายเงินชดเชยผลขาดทุนดังกล่าวโดยจ่ายชดเชยให้ทั้ง เงินต้นและดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์บันทึกบัญชีไปแล้ว พิจารณาได้ดังนี้ เนื่องจากกองทุนฯ มิได้มีฐานะเป็นลูกหนี้เงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ที่จะต้องชำระคืนเงินต้นและ ดอกเบี้ยที่เกิดจากการกู้ยืมเงินให้แก่ธนาคารพาณิชย์ ดังนั้น เงินชดเชยที่กองทุนฯจ่ายให้ธนาคารพาณิชย์ ตามสัญญาร่วมลงทุนจึงถือเป็นเงินได้ของธนาคารพาณิชย์ทั้งจำนวน ซึ่งธนาคารพาณิชย์ต้องนำมารวม คำนวณเป็นรายได้ในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล และเนื่องจากการชำระหนี้ดังกล่าวก็มิใช่การชำระ ดอกเบี้ยของการกู้ยืมเงินของลูกหนี้ ดังนั้น จึงไม่อยู่ในข่ายต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ 2. กรณีที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บหนี้ด้อยคุณภาพได้มากกว่าเกณฑ์ที่กำหนดในสัญญาหากกองทุนฯ จ่ายผลตอบแทนเพิ่มเติมให้ธนาคารพาณิชย์ พิจารณาได้ดังนี้ เนื่องจากค่าตอบแทนที่ธนาคารพาณิชย์ได้รับถือเป็นรายได้จากการประกอบกิจการของ ธนาคารพาณิชย์ซึ่งอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร และ เนื่องจากค่าตอบแทนที่ธนาคารพาณิชย์ได้รับเกิดจากกรณีที่ธนาคารดำเนินกิจการของตนเองในการบริหาร หนี้ด้อยคุณภาพ การบริหารหนี้ดังกล่าวจึงมิใช่การให้บริการแก่กองทุนฯ เมื่อกองทุนฯ จ่ายผลตอบแทน เพิ่มเติมให้ธนาคารพาณิชย์ ผลตอบแทนดังกล่าวจึงไม่อยู่ในข่ายต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่อย่างใด 3. กรณีที่ธนาคารพาณิชย์บริหารหนี้ด้อยคุณภาพและเรียกเก็บดอกเบี้ยจากลูกหนี้ ดังกล่าวได้ต่ำ กว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ต้องจ่ายให้แก่ผู้ฝากเงิน หากกองทุนฯ จะจ่ายเงินชดเชยส่วน ที่ขาดระหว่างอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์ต้องจ่ายให้ผู้ฝากเงินกับอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์ได้ จากการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ พิจารณาได้ดังนี้ เนื่องจากกองทุนฯ มิได้มีฐานะเป็นลูกหนี้เงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ที่จะต้องชำระคืนเงินต้นและ ดอกเบี้ยที่เกิดจากการกู้ยืมเงินให้แก่ธนาคาร ดังนั้น เงินชดเชยที่กองทุนฯ จ่ายให้ธนาคารพาณิชย์ตาม สัญญาร่วมลงทุนจึงถือเป็นเงินได้ของธนาคารพาณิชย์ทั้งจำนวน ซึ่งธนาคารพาณิชย์ต้องนำมารวมคำนวณ เป็นรายได้ในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล และเนื่องจากการชำระหนี้ดังกล่าวก็มิใช่การชำระดอกเบี้ย ของการกู้ยืมเงินของลูกหนี้ ดังนั้น จึงไม่อยู่ในข่ายต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ |
เลขตู้ | : 63/29865 |