เลขที่หนังสือ | : กค 0706(กม.)/656 |
วันที่ | : 21 กรกฎาคม 2547 |
เรื่อง | : การหักกลบลบหนี้ภาษีอากรจากการตรวจสอบของเจ้าพนักงานประเมิน |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 341 แห่งประมวลกฎหายแพ่งและพาณิชย์ |
ข้อหารือ | : 1 กรณีกรมสรรพากรได้วางแนววินิจฉัยตามมติคณะกรรมการ กพอ.ครั้งที่ 3/2518 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2518 (ระเบียบวาระที่ 1) แนววินิจฉัยของสำนักกฎหมาย และแนวทางปฏิบัติของ สำนักมาตรฐานกรรมวิธีภาษี สรุปเป็นแนวทางวินิจฉัยและแนวทางปฏิบัติในการหักกลบลบหนี้ภาษีอากรจาก การตรวจสอบของเจ้าพนักงานประเมินว่า เจ้าพนักงานประเมินมีสิทธินำภาษีที่ชำระไว้เกินไปหักกลบจาก ภาษีที่ชำระไว้ขาดได้โดยไม่อยู่ในบังคับเรื่องอายุความและในการหักกลบลบหนี้ภาษีอากรจาก การตรวจสอบนั้นไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบตามหมายเรียกหรือตรวจสอบโดยการตรวจปฏิบัติการก็ตาม เจ้าพนักงานประเมินมีสิทธินำภาษีที่ชำระไว้เกินและขาดมาหักออกจากกันได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าภาษีอากรที่ ตรวจสอบนั้นจะเป็นภาษีประเภทใดก็ตาม 2 ต่อมาศาลฎีกาแผนคดีภาษีอากร ได้มีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8855/2543 และ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3661/2544 และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3661/2544 วินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานใน แนวทางเดียวกันว่า เจ้าพนักงานประเมินไม่อาจนำหนี้ภาษีอากรที่ตรวจสอบและทำการประเมินเรียกเก็บ เพิ่มแต่ยังไม่ได้แจ้งการประเมินไม่อาจนำหนี้ภาษีอากรที่ตรวจสอบและทำการประเมินเรียกเก็บเพิ่มแต่ ยังไม่ได้แจ้งการประเมินถึงผู้มีหน้าที่เสียภาษีไปหักกลบลบหนี้กับจำนวนเงินที่ต้องคืนให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษี ได้ เนื่องจากกรณีภาษีอากรประเมินตามประมวลรัษฎากรนั้นเมื่อเจ้าพนักงานประเมินได้ประเมินภาษี อากรแล้วต้องแจ้งการประเมินเป็นหนังสือไปยังผู้มีหน้าที่เสียภาษีในกรณีนี้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีจะใช้สิทธิ อุทธรณ์การประเมินตามบทบัญญัติในประมวลรัษฎากรได้หากยังมิได้มีหนังสือแจ้งการประเมินภาษีมูลค่าเพิ่ม ไปยังผู้มีหน้าที่ผู้เสียภาษีย่อมมีสิทธิอุทธรณ์การประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้ การที่กฎหมาย บัญญัติว่าจะอุทธรณ์การประเมินก็ได้ แสดงให้เห็นได้ว่าก่อนทำการประเมินและแจ้งไปยังผู้มีหน้าที่เสียภาษี ยังไม่อาจถือได้ว่าเป็นหนี้ภาษีอากรที่แน่นอน เมื่อยังถือไม่ได้ว่าเป็นหนี้ภาษีที่แน่นอน กรมสรรพากรจึง ไม่อาจนำหนี้ภาษีอากรที่ตรวจสอบและทำการประเมินเรียกเก็บเพิ่มแต่ยังไม่ได้แจ้งการประเมินถึงผู้มี หน้าที่เสียภาษีไปหักกลบลบหนี้ได้ กรณีที่เจ้าพนักงานประเมินแจ้งผลการตรวจสอบภาษีดังกล่าวให้ทราบ กรณีเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่ามีการประเมินภาษีและแจ้งการประเมินเป็นหนังสือไปยังผู้มีหน้าที่เสียภาษี เพราะ อาจกระทบสิทธิของผู้ต้องเสียภาษีในการอุทธรณ์การประเมินได้ |
แนววินิจฉัย | : แม้กรมสรรพากรได้วางแนววินิจฉัยและแนวทางปฏิบัติในการหักกลบลบหนี้ภาษีอากรจาก การตรวจสอบของเจ้าพนักงานประเมินไว้ว่า เจ้าพนักงานประเมินมีสิทธินำภาษีที่ชำระไว้เกินไปหักกลบ จากภาษีที่ชำระไว้ขาดได้ โดยไม่อยู่ในบังคับเรื่องอายุความ และในการหักกลบลบหนี้ภาษีอากรจาก การตรวจสอบนั้นไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบตามหมายเรียกหรือตรวจสอบโดยการตรวจปฏิบัติการก็ตาม เจ้าพนักงานประเมินมีสิทธินำภาษีที่ชำระไว้เกินและขาดมาหักออกจากกันได้ไม่ขัดต่อบทบัญญัติตาม ประมวลรัษฎากรในเรื่องอายุความการขอคืนภาษีตามประมวลรัษฎากรก็ตาม แต่เนื่องจากบทบัญญัติว่าด้วย วิธีการเกี่ยวกับภาษีอากรประเมินในหมวด 2 ลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากรได้กำหนดว่ากรณี ภาษีอากรประเมินตามประมวลรัษฎากรนั้น เมื่อเจ้าพนักงานประเมินได้ประเมินภาษีอากรแล้ว ต้อง แจ้งการประเมินเป็นหนังสือไปยังผู้มีหน้าที่เสียภาษีในกรณีนี้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีจะใช้สิทธิอุทธรณ์การประเมิน ตามบทบัญญัติในส่วน 2 หมวด 2 ลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากรก็ได้ หากยังไม่มีการแจ้งการประเมิน ภาษีผู้มีหน้าที่เสียภาษีก็ไม่อาจใช้สิทธิอุทธรณ์การประเมินได้การที่กฎหมายบัญญัติว่าจะอุทธรณ์การประเมิน ก็ได้ แสดงให้เห็นได้ว่าก่อนทำการประเมินและแจ้งไปยังผู้มีหน้าที่เสียภาษี เป็นกรณีที่ยังไม่มีหน้าที่ต้อง ชำระภาษีดังกล่าว จึงยังไม่อาจถือได้ว่าเป็นหนี้ภาษีอากรที่แน่นอน เมื่อยังถือไม่ได้ว่าเป็นหนี้ภาษีอากรที่ แน่นอน กรมสรรพากรจึงไม่อาจนำบทบัญญัติเรื่องการหักกลบลบหนี้ตามมาตรา 341 แห่งประมวลกฎหาย แพ่งและพาณิชย์ มาใช้ในการหักกลบลบหนี้ภาษีอากรที่เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบแล้วแต่ยังไม่ได้ แจ้งการประเมินถึงผู้มีหน้าที่เสียภาษีได้แต่อย่างใด ในการหักกลบลบหนี้ภาษีอากรจากการตรวจสอบของ เจ้าพนักงานประเมินจะกระทำได้ต่อเมื่อได้แจ้งการประเมินภาษีถึงผู้มีหน้าที่เสียภาษีแล้วเท่านั้น |
เลขตู้ | : 67/33057 |