เลขที่หนังสือ | : กค 0706/พ./6981 |
วันที่ | : 22 กรกฎาคม 2547 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีบริษัทขายสินค้าให้แก่ผู้ซื้อในต่างประเทศ โดยว่าจ้างผู้ประกอบการรับขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศจัดส่งสินค้าให้ |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 80/1(1), คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.97/2543 ฯ |
ข้อหารือ | : 1. บริษัทฯ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2540 สถานประกอบการตั้งอยู่ เลขที่ กรุงเทพฯ ไม่มีสาขา ประกอบกิจการส่งออกอัญมณีที่ประกอบขึ้นเป็นตัวเรือนไปต่างประเทศโดย ว่าจ้างผู้ประกอบการรับขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศ จัดส่งสินค้าให้โดยมีขั้นตอนและรายละเอียดในการ ส่งออกดังนี้ 1.1 เมื่อบริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ บริษัทฯ จะติดต่อว่าจ้างให้ ผู้ประกอบการรับขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศเป็นผู้จัดส่งสินค้าให้ โดยบริษัทฯ จะจัดทำหลักฐาน ใบกำกับสินค้า (INVOICE) จำนวน 1 ชุด 5 ฉบับ และใบตราส่งสินค้า (AIR WAYBILL)จำนวน 1 ชุด 3 ฉบับ มอบให้กับผู้ประกอบการรับขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศ พร้อมกับสินค้าที่จะส่งออกตามรายการ ในใบกำกับสินค้า จากนั้นเมื่อผู้ประกอบการรับขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศ ตรวจสอบความถูกต้องแล้วจะ ลงลายมือชื่อและคืนใบกำกับสินค้า (INVOICE) และใบตราส่งสินค้า (AIR WAYBILL) คืนให้บริษัทฯ อย่างละ 1 ฉบับ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน 1.2 เมื่อผู้ประกอบการรับขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศ ได้ดำเนินการส่งออกสินค้าให้กับ บริษัทฯ แล้ว ก็จะออกใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าขนส่ง (ค่าระวาง), ค่าเคลียร์ สินค้า, ค่าอากรและค่าภาษี และเมื่อบริษัทฯ ชำระเงินตามใบแจ้งหนี้แล้ว ผู้ประกอบการรับขนส่ง พัสดุภัณฑ์ทางอากาศจึงจะออกใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงินให้กับบริษัทฯ ต่อไป 1.3 ในกรณีที่บริษัทฯ ให้ผู้ประกอบการรับขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศดำเนินพิธีการศุลกากร และส่งสินค้าเฉพาะของบริษัทฯ ไม่รวมไปกับสินค้าของลูกค้ารายอื่น ใบขนสินค้าขาออกจะออกในนามของ บริษัทฯ 1.4 ในกรณีที่บริษัทฯ ให้ผู้ประกอบการรับขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศ จัดส่งสินค้ารวมไปกับ ลูกค้ารายอื่นๆ กรณีนี้ ผู้ประกอบการรับขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศจะดำเนินพิธีการศุลกากรในนามของ ตนเอง บริษัทฯ จะไม่ได้สำเนาใบขนสินค้าขาออกจากผู้ประกอบการรับขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศ ซึ่งแม้ บริษัทฯ ได้ขอสำเนาใบขนสินค้าขาออก จากผู้ประกอบการรับขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศแล้ว แต่ได้รับการ ปฏิเสธโดยแจ้งเหตุผลว่า ใบขนสินค้าขาออกดังกล่าวเป็นเอกสารของผู้ประกอบการรับขนส่งพัสดุภัณฑ์ ทางอากาศไม่อาจสำเนาให้บุคคลอื่นใดได้ จากขั้นตอนและรายละเอียดข้อเท็จจริงในการส่งออกดังกล่าว บริษัทฯ เห็นว่าเป็นการ ส่งออกสินค้าไปต่างประเทศตามประมวลรัษฎากรแล้ว จึงยื่นยอดขายไว้ตามแบบ ภ.พ.30 สำหรับ เดือนภาษีที่มีการส่งออกโดยถือเป็นยอดขายส่งออกที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตลอดมา |
แนววินิจฉัย | : กรณีบริษัทฯ ขายสินค้าให้แก่ผู้ซื้อในต่างประเทศโดยว่าจ้างให้ผู้ประกอบการรับขนส่งพัสดุภัณฑ์ ทางอากาศจัดส่งสินค้ารวมไปกับลูกค้ารายอื่น ๆ แต่บริษัทฯ ไม่มีหลักฐานสำเนาใบขนสินค้าขาออกในนาม ของผู้ประกอบการรับขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศฉบับที่มีการสลักหลังการตรวจปล่อยสินค้าโดย เจ้าหน้าที่ศุลกากรนั้น หากบริษัทฯ มีเอกสารยืนยันการส่งออกสินค้าที่ผู้ประกอบการรับขนส่งพัสดุภัณฑ์ ทางอากาศได้จัดทำขึ้นเองเป็นหลักฐานแทนใบขนสินค้าขาออก ซึ่งหากเอกสารดังกล่าวมีข้อความแสดงว่า มีการตรวจปล่อยสินค้าโดยเจ้าหน้าที่ศุลกากร บริษัทฯ ก็จะได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามมาตรา 80/1(1) แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ตาม ข้อ 13 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.97/2543 ฯ ลงวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2543 |
เลขตู้ | : 67/33048 |