เลขที่หนังสือ | : กค 0706/4022 |
วันที่ | : 26 เมษายน 2547 |
เรื่อง | : ภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีธุรกรรมการค้าหลักทรัพย์และการขายชอร์ต |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 91/2(7) |
ข้อหารือ | : 1. ธุรกรรมการค้าหลักทรัพย์ เนื่องด้วยมาตรา 91/2(7) แห่งประมวลรัษฎากร ได้กำหนดให้ธุรกรรมการค้าหลักทรัพย์ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นธุรกิจที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในอัตราร้อยละ 0.1 จากฐาน รายรับก่อนหักรายจ่ายใด ๆ ตามมาตรา 91/6(1) แห่งประมวลรัษฎากร โดยปัจจุบันธุรกรรมการค้า หลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ดังกล่าว ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/3 แห่ง ประมวลรัษฎากร และพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 240) พ.ศ.2534 ฉะนั้น หาก J ได้ขายหลักทรัพย์ ดังกล่าว ไม่ว่าหลักทรัพย์นั้นจะเป็นหุ้น หุ้นกู้ หรือพันธบัตรก็ตาม ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย J ย่อมได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะตามนัยข้างต้น และเนื่องจากประมวลรัษฎากรจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ จากรายได้ที่เกิดขึ้นจากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น (ซึ่งปัจจุบันก็ได้รับ ยกเว้นตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 240) พ.ศ. 2534) ดังนั้น ในกรณีที่ J ขายหลักทรัพย์นอก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่ว่าหลักทรัพย์ดังกล่าว จะมีสภาพเป็นตราสารทุน เช่น หุ้น หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหนี้ เช่น หุ้นกู้ หรือพันธบัตรก็ตาม J ใคร่ขอหารือว่า J ไม่มีหน้าที่ต้องเสีย ภาษีธุรกิจเฉพาะแต่อย่างใด ถูกต้องหรือไม่ 2. ธุรกรรมการขายชอร์ต ในการประกอบกิจการของ J J เข้าทำสัญญาซื้อและขายคืนหลักทรัพย์ ตามนัยของ พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 350) พ.ศ. 2542 เพื่อให้ลูกค้าของ J กู้ยืมเงินโดยนำหลักทรัพย์มาเป็น ประกันการกู้ยืม และ J จะโอนหลักทรัพย์คืนให้แก่ลูกค้าเมื่อลูกค้าชำระเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยครบถ้วนตาม กำหนด J จะนำดอกเบี้ยที่ได้รับชำระจากลูกค้ามารวมคำนวณเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามนัยของ พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 350) พ.ศ.2542 ตามปกติ เนื่องจากธุรกรรมการซื้อและขายคืนหลักทรัพย์ ถูกจัดเป็นธุรกรรมการให้กู้ยืมเงินประเภทหนึ่ง J จะไม่บันทึกหลักทรัพย์ที่รับโอนเพื่อเป็นหลักประกัน เป็น สินทรัพย์ของ J ในงบการเงินแต่อย่างใด แต่บันทึกเป็นธุรกรรมให้กู้ยืมเงินโดยมีหลักประกัน ซึ่งเป็นไป ตามหลักเกณฑ์ทางบัญชีและกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในระหว่างระยะเวลาที่ J ถือหลักทรัพย์เพื่อเป็นหลักประกัน J อาจจะเข้าทำรายการ ขายชอร์ตหลักทรัพย์ดังกล่าวออกไปในตลาด และเมื่อใกล้ถึงกำหนดที่ J จะต้องคืนหลักทรัพย์ให้แก่ลูกค้า J ก็จะทำการซื้อหลักทรัพย์นั้น คืนจากตลาดและส่งมอบหลักทรัพย์นั้นให้แก่ลูกค้า ซึ่ง J จะต้องบันทึก ธุรกรรมดังกล่าวเป็นธุรกรรมขายชอร์ตตามหลักการบัญชี และตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.1/2528 ฯ ลงวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2528 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.78/2541 ฯ ลงวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2541 โดยข้อ 4.8 ของคำสั่งดังกล่าว ได้กำหนดวิธีการรับรู้รายได้เพื่อ คำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลไว้ กล่าวคือ หาก J ได้ยืมหลักทรัพย์และขายไป J จะต้องนำราคาปิดของ หลักทรัพย์ในวันที่ยืมหลักทรัพย์นั้น มาถือเสมือนเป็นต้นทุนเพื่อคำนวณกำไรขาดทุนของ J ณ วันขาย โดย J จะต้องทำการปรับปรุงกำไรขาดทุนอีกครั้งหนึ่งเมื่อ J ได้ซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวกลับคืนมา และคืนให้แก่ลูกค้า ในส่วนของภาษีธุรกิจเฉพาะนั้น หากการขายหลักทรัพย์นอกตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ J ใคร่ขอหารือว่าจะสามารถนำวิธีการรับรู้รายได้เพื่อ คำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลที่กำหนดไว้ในข้อ 4.8 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.1/2528 ฯ ลงวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2528 มาถือเป็นวิธีการรับรู้รายได้เพื่อคำนวณเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามนัยของ มาตรา 91/8 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากรได้หรือไม่ และหาก J ได้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะไปแล้วใน ขณะขายโดยใช้วิธีการคำนวณข้างต้น ต่อมาเมื่อ J คืนหลักทรัพย์ให้แก่ลูกค้าโดย J มีผลขาดทุนเกิดขึ้น J จะได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ สำหรับรายรับเฉพาะที่เป็นกำไรก่อนหักรายจ่ายใด ๆ จากการซื้อหรือ ขายตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใด ๆ ในเดือนภาษีนั้น เป็นจำนวนเท่ากับผลขาดทุนที่เกิดจาก การปรับปรุงกำไรขาดทุนตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 388) พ.ศ. 2544 ถูกต้อง หรือไม่ |
แนววินิจฉัย | : 1. ในส่วนที่เกี่ยวกับธุรกรรมการค้าหลักทรัพย์ เนื่องจากมาตรา 91/2(7) แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดให้เฉพาะการขายหลักทรัพย์ ตามกฎหมายว่าด้วยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น เป็นกิจการที่อยู่ในบังคับ ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ (ซึ่งในปัจจุบัน การขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ดังกล่าว ได้รับยกเว้น ภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 3(1) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 240) พ.ศ.2534 ดังนั้น การขาย หลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนอกตลาดหลักทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น หุ้นกู้ หรือพันธบัตร จึงไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะแต่อย่างใด 2. ในส่วนที่เกี่ยวกับเกณฑ์การคำนวณรายรับเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับการขาย หลักทรัพย์ เนื่องจากการขายหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทั้งในและ นอกตลาดหลักทรัพย์ ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะแต่อย่างใด ดังนั้น จึงไม่มีประเด็นที่ต้องพิจารณาเกณฑ์ การคำนวณรายรับเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับการขายหลักทรัพย์ดังกล่าว |
เลขตู้ | : 67/32907 |