เลขที่หนังสือ | : กค 0706/พ./4609 |
วันที่ | : 12 พฤษภาคม 2547 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแสตมป์ กรณีการให้บริการในต่างประเทศ |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 77/1(8)(ค), มาตรา 77/1(14), มาตรา 80/1(1), มาตรา 82/5(3), มาตรา 111 |
ข้อหารือ | : 1. บริษัทฯ ประกอบการผลิตส่วนประกอบของอาคาร ระบบฉากกั้นภายในอาคาร ทางเดิน ภายในอาคาร และสินค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมก่อสร้างอาคาร รวมทั้งอะไหล่และอุปกรณ์ของ สินค้าดังกล่าวและส่งออก โดยได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2544 2. บริษัทฯ ต้องจ่ายค่าบริหารจัดการ ค่าที่ปรึกษาทางกฎหมาย และค่าคอมมิชชั่น การันตี ให้ แก่ บริษัท ป. ในประเทศสิงคโปร์ ผู้เป็นบริษัทแม่ 3. บริษัทฯ ประกอบกิจการรับเหมาติดตั้งผนังกั้นอาคารภายนอกทำด้วยกระจกมีรายได้จาก การรับจ้างเขียน drawing และถอดแบบให้แก่บริษัท ท. และรายได้จากการขายวัสดุ อุปกรณ์ และเศษ ของวัสดุอุปกรณ์ 4. บริษัทฯ ได้ทำสัญญากับ บริษัท พ. โดยจัดทำสัญญาในประเทศไต้หวันจำนวน 3 ฉบับ ดังนี้ 4.1 สัญญาฉบับลงวันที่ 1 กันยายน 2544 จัดหาบริการดังต่อไปนี้ uni tizedfacade panels, cladding panels, aluminium sheet fabrication และ machined aluminium extrusions ที่อยู่ในโซนต่าง ๆ เพื่อการจัดสร้างอาคารศูนย์การเงินไทเป (Taipei Financial Center Project หรือ TFG-Project) ตั้งอยู่ ณ กรุงไทเป ไต้หวัน 4.2 สัญญาฉบับลงวันที่ 11 ธันวาคม 2545 จัดหาบริการดังต่อไปนี้ unit izedfacade panels และ machined aluminium extrusions สำหรับ non-typical panels ในโซน 17 pod 5, 5 & 6 ของอาคารศูนย์การเงินไทเป 4.3 สัญญาฉบับลงวันที่ 30 ธันวาคม 2545 จัดหาบริการ คือ u nitizedfacade panels ของโซน 17 pod, 7 & 8 c และ machined aluminium extrusions สำหรับ non-typical panels ในโซน 17 pod 7, 8 โซน 20, 22 & 28 ของอาคารศูนย์การเงินไทเป 5. บริษัทฯ ประกอบกิจการในลักษณะที่ลูกค้าจะนำแบบอาคารที่สถาปนิกออกแบบไว้มาให้แก่ บริษัทฯ เพื่อดำเนินการออกแบบโครงสร้างภายในของผนังตึกอาคารในส่วนที่เป็นกระจกรอบอาคารดีไซด์ รูปแบบขนาดของกระจก วัสดุที่ต้องใช้เพื่อให้มีความแข็งแรงในการรับน้ำหนักและป้องกันการรั่วซึมของน้ำ โดยมีรูปแบบตามโครงสร้างแบบอาคารของสถาปนิก ต่อจากนั้นจะถอดแบบจาก drawing คำนวณวัสดุ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ แล้วจึงจัดหาวัสดุอุปกรณ์นำมาประกอบเป็นชิ้นงานแล้วจัดส่งให้แก่ลูกค้า 6. บริษัทฯ จะต้องจัดหาบริการตามสัญญา โดยเป็นผู้จัดซื้อและจัดหาชิ้นส่วนประกอบทั้งหมด ตามขอบข่ายงานของสัญญา และจะต้องส่งมอบชิ้นส่วนประกอบพร้อม Invoice,Packing list และ Bill of Lading ให้แก่ลูกค้า 6.1 ผู้ทำสัญญาตกลงจะซื้อชิ้นส่วนประกอบทั้งหมดจากบริษัทฯ โดยวัสดุ และ Panels ทั้งหมดจะต้องบรรจุหีบห่อและส่งมอบแบบ Floor by Floor หรือตามความต้องการของผู้ทำสัญญา 6.2 ราคาที่ตกลงตามสัญญา คิดเป็นชิ้นงานที่ทำเสร็จ คำนวณอัตราต่อหน่วยแน่นอนเป็น กิโลกรัมและหรือตารางเมตร 6.3 ผู้ทำสัญญา จะเป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพ หลักฐานการส่งมอบสินค้าบริการ 6.4 ชิ้นส่วนประกอบทั้งหมดจะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับรายละเอียดข้อมูลเฉพาะ Specifications Shop drawing & Fabrication drawing ซึ่งผู้ทำสัญญาเป็นผู้จัดหาให้แก่บริษัทฯ 6.5 เงื่อนไขการชำระเงินตามสัญญา - ในการส่งมอบบริการทุกครั้ง ต้องส่งมอบ Invoice, Packing lis t และ Bill of Lading ให้แก่ผู้ทำสัญญา - Invoice จะถูกนำมาตรวจสอบและพิสูจน์ความถูกต้องกับเอกสารสำคัญอื่น ๆ ที่ เกี่ยวข้อง - ชำระเงินภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง Invoice โดยการโอนเงิน ทางโทรเลข 6.6 ขั้นตอนการให้บริการของบริษัทฯ กล่าวคือ ผู้ทำสัญญาจะเป็นผู้กำหนดแบบดีไซด์มาให้ และบริษัทฯ จะถอดแบบคำนวณวัตถุดิบที่ต้องใช้ตามแบบ แล้วจึงจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้จากทั้งใน ประเทศและต่างประเทศมาดำเนินการตัดตกแต่ง และประกอบภายในประเทศให้ เป็นไปตามแบบที่ ผู้ทำสัญญากำหนดและดำเนินการส่งออกชิ้นส่วนประกอบที่ผลิตได้ดังกล่าวไปให้แก่ผู้ทำสัญญาในต่างประเทศ พร้อมหลักฐาน Invoice, Packing list และ Bill of Lading โดยผ่านพิธีการศุลกากร 6.7 บริษัทฯ มีการจัดส่งช่างไปตรวจดูชิ้นงานเป็นครั้งคราว โดยดูลักษณะของการเก็บชิ้น งาน ณ คลังสินค้าของผู้ทำสัญญา และดูลักษณะการติดตั้งของคนงานของผู้ทำสัญญา ณ สถานที่ติดตั้งหรือไซด์งานด้วยว่ามิได้ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อตัวชิ้นงาน ทั้งนี้ เพราะบริษัทฯ มีการ คุ้มครองและรับประกัน ความเสียหายอันอาจเกิดขึ้นจากความบกพร่องของตัวสินค้าบริการ และผู้ทำสัญญาสามารถเรียกร้องสิทธิ ความคุ้มครองอันเกิดจากความสูญเสียใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าบริการนั้น 6.8 บริษัทฯ ได้รับชำระราคาตามเงื่อนไขของสัญญาภายใน 60 วัน นับจากวันที่ที่ระบุไว้ ใน Invoice 7. บริษัทฯ มิได้เป็นผู้รับเหมาติดตั้งชิ้นงาน ณ อาคารศูนย์การเงินไทเป หากแต่บริษัท จ. บริษัทแม่ของบริษัท พ. ได้ ว่าจ้างบริษัท S และบริษัท J ทำการติดตั้งอาคารศูนย์การเงินดังกล่าว 8. บริษัทฯ ถือว่า การประกอบกิจการดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นการให้บริการและส่งออก บริการ จึงมิได้ทำรายงานสินค้าและวัตถุดิบ โดยได้ยื่นแบบ ภ.พ.30 เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 9. บริษัทฯ บันทึกบัญชีรับรู้รายได้ตามอัตราส่วนต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงจนถึงปัจจุบัน ประมาณการ ต้นทุนงานตามสัญญาทั้งสิ้น ต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการซื้อวัสดุอุปกรณ์ แม้ยังไม่ได้ส่งมอบบริษัทฯ ถือว่าเป็นต้น ทุนที่เกิดขึ้นแล้ว และบันทึกรับรู้เป็นรายได้ในรอบบัญชี 9.1 ลักษณะการประกอบกิจการของบริษัทฯ เข้าลักษณะเป็นการขายสินค้าหรือให้บริการ ตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่ อย่างไร 9.2 กรณีบริษัทฯ เข้าใจว่า การประกอบการของบริษัทฯ เข้าลักษณะเป็นการส่งออก บริการ ถูกต้องหรือไม่ 9.3 กรณีส่งออกวัสดุอุปกรณ์ตามสัญญา ถือเป็นการส่งออกบริการหรือการขายสินค้าหรือ เป็นการให้บริการในต่างประเทศ และภาษีซื้อค่าวัสดุอุปกรณ์ที่เกิดขึ้นจากการจัดซื้อตามสัญญา บริษัทฯ มีสิทธินำมาใช้เป็นเครดิตหรือขอคืน ได้หรือไม่ อย่างไร 9.4 สัญญาจัดหาบริการทั้ง 3 ฉบับ ซึ่งบริษัทฯ ได้ทำขึ้นในต่างประเทศ ถือว่าการปฏิบัติ ตามข้อสัญญานั้นได้กระทำในประเทศไทยหรือต่างประเทศ และสัญญาดังกล่าวต้องติดอากรแสตมป์ หรือไม่ |
แนววินิจฉัย | : 1. กรณีบริษัทฯ จัดหา unitized facade panels, cladding panels, aluminiumsheet fabrication และ machined aluminium extrusions ให้แก่บริษัท พ. เพื่อการจัดสร้างอาคารศูนย์การเงินไทเป ตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ โดยบริษัท พ. จะนำแบบดีไซด์มาให้ บริษัทฯ เพื่อถอดแบบคำนวณวัตถุดิบที่ต้องใช้แล้วจัดซื้อ วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาดำเนินการตัด ตกแต่ง และประกอบในประเทศไทยให้เป็นไปตามรูปแบบที่บริษัท พ. กำหนดไว้ เข้า ลักษณะเป็นการรับจ้างผลิตสินค้าตามที่คู่สัญญาตกลงกัน และเมื่อบริษัทฯ ดำเนินการส่งออกชิ้นส่วนประกอบ ที่ผลิตได้ดังกล่าวออกไปให้แก่บริษัท พ. ในต่างประเทศโดยผ่านพิธีการศุลกากร จึงเป็นการส่งออกสินค้า มาตรา 77/1(14) แห่งประมวลรัษฎากร อันเข้าลักษณะเป็นการขายสินค้าโดยการส่งออกตามมาตรา 77/1(8)(ค) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตาม มาตรา 80/1(1) แห่งประมวลรัษฎากร และภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อวัสดุอุปกรณ์ทั้งในและต่างประเทศ มาเพื่อดำเนินการจัดทำชิ้นส่วนประกอบดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการ ประกอบกิจการของบริษัทฯ บริษัทฯ มีสิทธินำไปหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 82/5(3) แห่งประมวลรัษฎากร 2. กรณีบริษัทฯ ได้ทำสัญญากับบริษัท พ. โดยบริษัท พ. จะทำการดีไซด์มาให้บริษัทฯ เพื่อ ถอดแบบคำนวณวัตถุดิบที่ต้องใช้แล้ว บริษัทฯ จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์มาดำเนินการตัด ตกแต่ง และประกอบใน ประเทศไทยให้เป็นไปตามรูปแบบที่บริษัท พ. กำหนดไว้ เข้าลักษณะเป็นสัญญาจ้างทำของ ซึ่งเป็น ตราสารที่อยู่ในบังคับต้องปิดอากรแสตมป์ตามลักษณะแห่งตราสาร 4.แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ แต่ ตราสารนั้นได้ทำขึ้นนอกประเทศไทย หากบริษัทฯ เป็นผู้ทรงตราสารคนแรกในประเทศไทย บริษัทฯ จะ ต้องเสียอากรตามมาตรา 111 แห่งประมวลรัษฎากร |
เลขตู้ | : 67/32942 |