เมนูปิด

 

เลขที่หนังสือ: กค 0706/พ./12586
วันที่: 17 ธันวาคม 2546
เรื่อง: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีรายรับจากการประกอบกิจการ
ข้อกฎหมาย: มาตรา 77/1(10)
ข้อหารือ: สำนักงานสรรพากรพื้นที่ (เดิม) หารือว่าได้ดำเนินการตรวจปฏิบัติการทั่วไปภาษีมูลค่าเพิ่ม
ราย สันนิบาต ส. สำหรับเดือนภาษีกรกฎาคม - กันยายน 2541 โดยมีข้อเท็จจริงดังนี้
1. สันนิบาตฯ เป็นนิติบุคคลประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นสหกรณ์มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมกิจการ
สหกรณ์ทุกประเภททั่วราชอาณาจักร โดยมีอำนาจกระทำตามมาตรา 110 และอาจมีรายได้ตาม 111
แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 สันนิบาตฯ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นผู้ประกอบการ
จดทะเบียนเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2540 ประกอบกิจการให้บริการจองห้องพัก บริการรับจองสถานที่
จัดเลี้ยงและสัมมนา และจัดบริการอาหารและเครื่องดื่ม
2. สันนิบาตฯ ได้ก่อสร้างอาคาร (โครงการ น.ม.ส.) เพื่อเป็น ศูนย์กลางในการจัด
ประชุมอบรมให้บริการด้านที่พักแก่สมาชิกเจ้าหน้าที่สหกรณ์ บุคคลทั่วไปในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์
ตลอดจนประชาชนทั่วไปเพื่อใช้เป็นศูนย์รวมของสหกรณ์ทั่วประเทศ สันนิบาตฯ มีรายได้จากการ
ดำเนินงานของโครงการอาคาร น.ม.ส. คือ ค่าเช่าห้องพัก ค่าเช่าสถานที่ ค่าบริการพื้นที่ ค่าอาหาร
และเครื่องดื่ม ค่าบริการขายอาหาร ค่าซักรีด และบริการอื่น ๆ เป็นต้นส่วนกรณีค่าบำรุงสมาชิกสหกรณ์
ค่าให้บริการสถานที่ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าบริการขายอาหาร ค่าซักรีด และค่าบริการอื่น ๆ
เงินได้ทั้งหมดเหล่านี้เป็นการให้บริการทางธุรกิจหรือวิชาชีพตามมาตรา 77/1(10) แห่ง
ประมวลรัษฎากร ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2(1) แห่งประมวลรัษฎากร เช่นกันหาก
สันนิบาตฯ ส่งรายรับทั้งสิ้นให้แก่รัฐโดยไม่หักรายจ่ายย่อมได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81(1)(ท)
แห่งประมวลรัษฎากร นั้น
แนววินิจฉัย: กรมสรรพากรขอเรียนว่า สันนิบาตฯ เป็นนิติบุคคลตามมาตรา 109 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์
พ.ศ.2542 ไม่เข้าลักษณะเป็น “บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล” ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร
การที่สันนิบาตฯ มีรายได้จากการดำเนินงานของโครงการ น.ม.ส. คือ ค่าเช่าสถานที่ ค่าบริการพื้นที่
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าบริการขายอาหาร ค่าบำรุงสมาชิกสหกรณ์ ค่าซักรีด และค่าบริการอื่น ๆ จึง
ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่ตามข้อเท็จจริงการประกอบกิจการของสันนิบาตฯ เข้าลักษณะ
เป็นผู้ประกอบการมีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/1(5) และมาตรา 82 แห่งประมวลรัษฎากร
ดังนี้
1. กรณีรายรับที่เป็นค่าเช่าห้องพัก ค่าเช่าห้องประชุมซึ่งเป็นการให้เช่าในลักษณะเป็น
ครั้งคราว ค่าบริการพื้นที่ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าบริการขายอาหาร ค่าบำรุงสมาชิกสหกรณ์ที่
เรียกเก็บจากสมาชิก ค่าซักรีด และบริการอื่น ๆ เข้าลักษณะเป็นการให้ “บริการ” ตามมาตรา
77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากร อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2(1) แห่ง
ประมวลรัษฎากร
2. รายรับที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีรายรับที่เป็นค่าเช่าสถานที่ หากสันนิบาตฯ มีการ
ให้เช่าพื้นที่ภายในอาคาร เช่น ให้เช่าพื้นที่ทำร้านค้าต่าง ๆ ภายในอาคารดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะเป็นการ
ให้ผู้เช่าได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์ชั่วระยะเวลาอันมีจำกัดและผู้เช่าตกลงจะจ่ายค่าเช่า
อสังหาริมทรัพย์นั้น โดยผู้ให้เช่าต้องส่งมอบการครอบครองพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้เช่า จะเข้าลักษณะ
เป็นการให้บริการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81(1)(ต) แห่ง
ประมวลรัษฎากร แต่ถ้าไม่มีการส่งมอบการครอบครองไม่ถือว่าเป็นการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ แต่จะ
ถือว่าเป็นการให้บริการซึ่งไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
3. การประกอบกิจการของสันนิบาตฯ ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่เข้าลักษณะเป็นการ
ประกอบกิจการของกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งส่งรายรับทั้งสิ้นให้แก่รัฐโดยไม่หักรายจ่ายตามมาตรา
81(1)(ท) แห่งประมวลรัษฎากร จึงอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
เลขตู้: 66/32749


 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020