เมนูปิด

 

เลขที่หนังสือ: กค 0811/7454
วันที่: 1 สิงหาคม 2546
เรื่อง: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาพำนักระยะยาวในประเทศไทย
ข้อกฎหมาย: มาตรา 4 ทวิ, มาตรา 56
ข้อหารือ: กรณีนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้สูงอายุหรือผู้เกษียณอายุที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปเดินทางมาท่องเที่ยว
ในประเทศไทย และพำนักในประเทศไทยได้เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งนักท่องเที่ยวดังกล่าวไม่สามารถประกอบ
อาชีพ หรือหารายได้ในประเทศไทย แต่จะเข้ามาใช้จ่ายเงินออมและบำนาญที่ได้รับจากประเทศของตน
จึงหารือว่า
1. นักท่องเที่ยวพำนักระยะยาวผู้เกษียณอายุซึ่งมาพำนักอยู่ในประเทศเป็นเวลา 1 ปี โดย
ไม่ได้ประกอบอาชีพหรือหารายได้ในประเทศไทย จะต้องเสียภาษีรายได้ส่วนบุคคลหรือไม่
2. กรณีต้องเสียภาษีจะต้องเสียภาษีประเภทใด และที่ใด
แนววินิจฉัย: นักท่องเที่ยวไม่มีเงินได้จากแหล่งเงินได้ในประเทศไทย แต่มีเงินได้พึงประเมินจากแหล่ง
เงินได้ในต่างประเทศ โดยนำเงินออมหรือเงินบำนาญที่ได้จากต่างประเทศเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทย
มีภาระภาษีดังนี้
1. กรณีนักท่องเที่ยวนำเงินออมที่เก็บสะสมไว้ซึ่งเป็นเงินได้ของปีก่อน ๆ เข้ามาใช้จ่ายใน
ประเทศไทย ไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแต่อย่างใด
2. กรณีนักท่องเที่ยวนำเงินบำนาญที่ได้รับจากประเทศของตน เข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทย
โดยเงินบำนาญนั้นเป็นเงินได้ที่ได้รับในปีภาษี (ปีประดิทิน) นั้น และนำเข้ามาในประเทศไทยในปีภาษี
เดียวกัน หากนักท่องเที่ยวนั้นเข้ามาพำนักหรืออยู่ในประเทศไทยชั่วระยะเวลาหนึ่ง หรือหลายระยะรวม
เวลาทั้งหมดถึงหนึ่งร้อยแปดสิบวันในปีภาษี เงินได้ที่ได้รับและนำเข้ามาในประเทศไทยดังกล่าว อยู่ใน
บังคับต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยให้ยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.91 ณ สำนักงาน
สรรพากรพื้นที่สาขาภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป กรณีนักท่องเที่ยวออกจากประเทศไทยก่อน
กำหนดเวลายื่นรายการตามมาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากร ให้ยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.93
ชำระภาษีอากร (ถ้ามี) ให้เสร็จสิ้นก่อนออกเดินทางตามมาตรา 4 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
เลขตู้: 66/32602


 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020