เลขที่หนังสือ | : กค 0706/6059 |
วันที่ | : 26 มิถุนายน 2546 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีขอยกเว้นภาษีจากการผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะ |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 65 ทวิ (4), มาตรา 77/1(8) และ (9) |
ข้อหารือ | : บริษัท ก. ประกอบกิจการขนส่งขยะมูลฝอยให้กับกรุงเทพมหานครและนำไปกำจัดโดยวิธีฝัง กลบอย่างถูกสุขลักษณะในพื้นที่ของบริษัทฯ ในการดำเนินการฝังกลบขยะทำให้เกิดแก๊สมีเทนซึ่งมีผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ร่วมมือกับศูนย์ปฏิบัติการวิศวกรรมพลังงานและสิ่งแวดล้อม คณะ วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดำเนินโครงการจัดตั้งโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากแก๊สขยะ ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งโครงการฯ ดังกล่าวมีสาระสำคัญคือ 1. มหาวิทยาลัยฯ และบริษัทฯ ได้ร่วมกันดำเนินโครงการจัดตั้งโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากแก๊ส ขยะ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยีและการจัดการ ตลอดจนเป็นต้นแบบในการพัฒนาพลังงาน ทดแทน โดยมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้จัดหางบประมาณในการก่อสร้าง 2. เทคโนโลยีการผลิตกระแสไฟฟ้าจากแก๊สขยะที่มหาวิทยาลัยฯ ริเริ่มขึ้นตามโครงการนี้เป็น ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยฯ ผู้ใดจะนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ประโยชน์หรืออ้างอิงใด ๆ จะต้องได้รับ อนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน แต่ในส่วนของบริษัทฯ ที่จะนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ในพื้นที่ของบริษัทฯ มหาวิทยาลัยฯ จะพิจารณาให้บริษัทฯ และบริษัทในเครือนำไปใช้ประโยชน์ได้ 3. บริษัทฯ ตกลงให้มหาวิทยาลัยฯ ใช้พื้นที่ของบริษัทฯ และใช้แก๊สจากขยะเพื่อดำเนินการ ตามโครงการฯ จนถึงจุดคุ้มทุนของโครงการฯ แต่ไม่เกินระยะเวลา 6 ปีนับแต่วันที่เปิดเดินเครื่องผลิต กระแสไฟฟ้า ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นหลังจากโครงการฯ ถึงจุดคุ้มทุนแล้วจะตกลงกันในภายหลัง และต่อมา ได้ร่างข้อตกลงฉบับที่ 2 ว่า บริษัทฯ ตกลงให้มหาวิทยาลัยฯ ใช้พื้นที่ของบริษัทฯ และใช้แก๊สจากขยะเพื่อ ดำเนินการเป็นเวลา 12 ปี โดยทางบริษัทฯ จะได้รับค่าผลประโยชน์จากแก๊สหลังจากโครงการฯ ถึงจุด คุ้มทุนแล้ว โดยผลประโยชน์จากแก๊สคิดเป็นมูลค่าเทียบเท่ากับค่าความร้อนของเชื้อเพลิง (บาท/ล้านบีทียู) ที่ใช้ป้อนเครื่องยนต์ผลิตกระแสไฟฟ้าตามอัตราที่ธนาคารโลกและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงาน แห่งชาติกำหนดหลังจากหักค่าดำเนินการประจำปีทั้งหมด บริษัทฯ จึงหารือว่าบริษัทฯ จะต้องรับภาระภาษีประเภทใดหรือไม่ และเนื่องจากโครงการฯ ดังกล่าวเป็นโครงการฯ ในพระราชดำริที่มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม จึงขอให้ยกเว้นภาษีให้บริษัทฯ ด้วย |
แนววินิจฉัย | : บริษัทฯ มีภาระภาษีจากการดำเนินการตามโครงการฯ ดังต่อไปนี้ 1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล โครงการฯ ดังกล่าวจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งต้นแบบระบบผลิต กระแสไฟฟ้าจากแก๊สขยะ ซึ่งเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริฯ เพื่อแก้ปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่หายากอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยส่วนรวม ดังนั้น การที่ บริษัทฯ ยอมให้มหาวิทยาลัยฯ ใช้ที่ดินและใช้แก๊สที่เกิดจากขยะบนที่ดินของบริษัทฯ เพื่อนำไปเป็น เชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าโดยไม่มีค่าตอบแทน และมีข้อตกลงว่าบริษัทฯ จะได้รับผลประโยชน์ ตอบแทนเมื่อโครงการฯ ถึงจุดคุ้มทุนแล้วนั้น ถือได้ว่าเป็นการโอนทรัพย์สินหรือให้บริการ โดยไม่มีค่าตอบแทนโดยมีเหตุอันสมควร จึงไม่เป็นการต้องห้ามตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่ง ประมวลรัษฎากร กรณีบริษัทฯ ได้รับค่าตอบแทนจากการให้ใช้ที่ดินและแก๊สจากขยะเมื่อโครงการฯ ถึงจุด คุ้มทุนแล้ว ค่าตอบแทนดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นรายได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการ บริษัทฯ มีหน้าที่ ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร 2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม แก๊สจากขยะเป็นทรัพย์สินไม่มีรูปร่างที่อาจมีราคาและถือเอาได้ไม่ว่าจะมีไว้เพื่อขายเพื่อ ใช้หรือเพื่อการใด ๆ ดังนั้น การที่บริษัทฯ ให้มหาวิทยาลัยฯ ใช้แก๊สจากขยะดังกล่าว เข้าลักษณะเป็น การขายสินค้า ตามมาตรา 77/1(8) และ (9) แห่งประมวลรัษฎากร จึงอยู่ในบังคับต้องเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2(1) แห่งประมวลรัษฎากร แต่เนื่องจากการที่บริษัทฯ ยอมให้ มหาวิทยาลัยฯ ใช้แก๊สจากขยะโดยไม่มีค่าตอบแทน เข้าลักษณะเป็นการขายสินค้าโดยไม่มีค่าตอบแทนโดย มีเหตุอันสมควร บริษัทฯ จึงไม่ต้องนำมูลค่าของฐานภาษีดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มแต่ อย่างใดตามมาตรา 79/3(1) แห่งประมวลรัษฎากร ต่อเมื่อบริษัทฯ ได้รับค่าตอบแทนเมื่อโครงการฯ ถึงจุดคุ้มทุนแล้ว บริษัทฯ จะต้องนำมูลค่าของฐานภาษีดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตาม มาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร |
เลขตู้ | : 66/32526 |