เมนูปิด

 

เลขที่หนังสือ: กค 0706/3995
วันที่: 29 เมษายน 2546
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการรับรู้รายได้
ข้อกฎหมาย: มาตรา 65
ข้อหารือ: หารือแนวทางปฏิบัติในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการขายรถที่ได้ยึดคืนมาจาก
ผู้เช่าซื้อ โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า บริษัทผู้ให้เช่าซื้อ สมาชิกสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย จะทำการยึด
รถยนต์ซึ่งให้เช่าซื้อคืนจากผู้เช่าซื้อเมื่อผู้เช่าซื้อผิดข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อ เช่น ค้างชำระค่าเช่าซื้อ 3
งวด ติดต่อกัน หรือใช้รถยนต์ที่เช่าซื้อในลักษณะที่ผิดกฎหมาย เป็นต้น การผิดข้อตกลงดังกล่าวเป็นเหตุให้
บริษัทผู้ให้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ ซึ่งผู้เช่าซื้อต้องดำเนินการส่งมอบรถยนต์ดังกล่าวคืนให้แก่บริษัท
ผู้ให้เช่าซื้อ หากผู้เช่าซื้อไม่ส่งมอบรถยนต์คืน บริษัทผู้ให้เช่าซื้อจะทำการติดตามยึดรถยนต์และนำมา
จำหน่ายต่อไป ซึ่งตามวิธีปฏิบัติทางบัญชี เมื่อบริษัทผู้ให้เช่าซื้อยึดรถยนต์คืนมาได้ บริษัทผู้ให้เช่าซื้อจะ
บันทึกบัญชีโดยโอนยอดคงเหลือสุทธิของบัญชีลูกหนี้เช่าซื้อ โดยหักบัญชีดอกผลเช่าซื้อรอการตัดบัญชีสำหรับ
ผู้เช่าซื้อรายนั้นไปแสดงในบัญชีทรัพย์สินรอการขาย หากบริษัทผู้ให้เช่าซื้อขายรถยนต์ซึ่งยึดมาได้โดย
ราคาขายสูงกว่าราคาตามบัญชีของทรัพย์สินรอการขายบริษัทผู้ให้เช่าซื้อจะรับรู้กำไรที่เกิดขึ้นจาก
การจำหน่ายทรัพย์สินยึดคืน แต่หากราคาขายต่ำกว่าราคาตามบัญชีที่บันทึกไว้ บริษัทผู้ให้เช่าซื้อจะรับรู้เป็น
ขาดทุนจากการจำหน่ายทรัพย์สินยึดคืน จึงหารือว่า
1. กรณีบริษัทผู้ให้เช่าซื้อขายรถยนต์ที่ยึดคืนมาได้ออกไป บริษัทผู้ให้เช่าซื้อควรรับรู้เป็นกำไร
หรือขาดทุนจากการจำหน่ายทรัพย์สินได้ในรอบระยะเวลาบัญชีที่มีการจำหน่ายหรือไม่ เพราะผลต่างซึ่ง
เป็นกำไรหรือขาดทุนดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากการประกอบกิจการ บริษัทผู้ให้เช่าซื้อย่อมนำมาหักเป็น
รายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิทางภาษีในรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้มีการจำหน่ายทรัพย์สินยึดคืน
2. กรณีบริษัทขายรถยนต์ที่ยึดมาได้ในราคาต่ำกว่าราคาตามบัญชีที่บันทึกไว้ ซึ่งหากบริษัท
ผู้ให้เช่าซื้อดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายซึ่งเป็นผลขาดทุนจากการจำหน่ายทรัพย์สินยึดคืน โดย
บริษัทผู้ให้เช่าซื้อสามารถบังคับคดีจนได้รับชำระหนี้ค่าเสียหายจากลูกหนี้และผู้ค้ำประกันในสัญญาเช่าซื้อ
รายนั้น บริษัทผู้ให้เช่าซื้อจะบันทึกรับรู้เป็นค่าเสียหายที่ได้รับคืนตามจำนวนเงินที่ได้รับชำระหนี้ในแต่ละ
รอบระยะเวลาบัญชีหรือไม่
แนววินิจฉัย: 1. การรับรู้รายได้เพื่อประโยชน์ในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล บริษัทผู้ให้เช่าซื้อจะต้อง
บันทึกรับรู้รายได้ตามเกณฑ์สิทธิตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อบริษัทผู้ให้เช่าซื้อทำการยึด
รถยนต์และจำหน่ายไป บริษัทผู้ให้เช่าซื้อจะต้องรับรู้รายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีที่มีการจำหน่ายรถยนต์ที่
ยึดคืนดังนี้
(ก) กรณีรายได้จากการขายรถยนต์ที่ยึดคืนรวมกับเงินค่างวดที่บริษัทผู้ให้เช่าซื้อได้รับ
ชำระมีจำนวนมากกว่าจำนวนรายได้ที่บริษัทผู้ให้เช่าซื้อได้รับรู้เป็นรายได้ไว้แล้ว ผลต่างดังกล่าวถือเป็น
ประโยชน์จากการขาย บริษัทผู้ให้เช่าซื้อต้องนำมารวมคำนวณเป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีที่มี
การจำหน่ายรถยนต์
(ข) กรณีรายได้จากการขายรถยนต์ที่ยึดคืนรวมกับเงินค่างวดที่บริษัทผู้ให้ เช่าซื้อได้รับ
ชำระมีจำนวนน้อยกว่าจำนวนรายได้ที่บริษัทผู้ให้เช่าซื้อได้รับรู้เป็นรายได้ไว้แล้วผลต่างดังกล่าวถือเป็น
ผลเสียหายอันเนื่องจากการประกอบกิจการ บริษัทผู้ให้เช่าซื้อสามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณ
กำไรสุทธิในรอบระยะเวลาบัญชีที่มีการจำหน่ายรถยนต์ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (12) แห่ง
ประมวลรัษฎากร
2. กรณีบริษัทผู้ให้เช่าซื้อดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายซึ่งเป็นผลขาดทุนจาก
การจำหน่ายรถยนต์ที่ยึดคืนและสามารถบังคับคดีจนได้รับชำระหนี้ค่าเสียหายจากลูกหนี้และ ผู้ค้ำประกัน
ตามสัญญาเช่าซื้อ บริษัทผู้ให้เช่าซื้อสามารถรับรู้เป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีที่ลูกหนี้หรือผู้ค้ำประกัน
ชำระค่าเสียหาย
เลขตู้: 66/32381


 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020