เลขที่หนังสือ | : กค 0706/2985 |
วันที่ | : 26 มีนาคม 2546 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการประกอบธุรกิจระบบ Pool (เงินกองกลาง) |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 65 |
ข้อหารือ | : บริษัท ว. ได้ดำเนินธุรกิจเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดและด้านบัตรอภิสิทธิ์ ซึ่งผู้ถือบัตรสามารถ นำบัตรไปแสดง ณ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเพื่อขอใช้สิทธิในรูปของคะแนนสะสมตามส่วนเปอร์เซ็นต์ที่ ร้านค้าตกลงและยินยอมให้กับผู้ถือบัตร (1 คะแนนมีมูลค่าเท่ากับ 1 บาท) และสามารถนำคะแนนสะสม ไปใช้แทนเงินสดในการซื้อสินค้าหรือบริการหรือใช้เป็นส่วนลดค่าสินค้าหรือบริการ ณ ร้านค้าใดก็ได้ที่ เข้าร่วมโครงการซึ่งโครงการบัตรอภิสิทธิ์ที่บริษัทฯ ได้จัดทำขึ้นนี้ ในส่วนของ บริษัทฯ และร้านค้าที่ เข้าร่วมโครงการเรียกว่า ระบบ Pool (เงินกองกลาง) โดยบริษัทฯ ดำเนินการติดต่อร้านค้าที่ดำเนิน ธุรกิจขายสินค้าหรือบริการ และทำสัญญาข้อตกลงในเรื่องผลประโยชน์ที่ร้านค้าจะได้รับและค่าใช้จ่ายที่ ต้องเสียให้กับโครงการนี้ บริษัทฯ จะเป็นผู้หาสมาชิกโดยดำเนินการดังนี้ 1. บริษัทฯ เป็นผู้จัดทำบัตรอภิสิทธิ์ขึ้นมาและมอบให้กับลูกค้าผู้ถือบัตร รายได้ของบริษัทฯ ได้แก่ค่าธรรมเนียมแรกเข้าของสมาชิกบัตรและค่าธรรมเนียมรายปีในการถือบัตรของลูกค้าเท่านั้น 2. บริษัทฯ มิได้รับผลประโยชน์จากเงินที่เข้ามาและจ่ายออกในระบบ Pool (เงินกองกลาง) บริษัทฯ มีหน้าที่ดูแล ตรวจสอบ โอนเงิน รับเงินเข้าบัญชีและจัดทำรายงานทางการเงินของระบบ Pool ให้กับร้านค้าสมาชิกในโครงการเท่านั้น 3. บริษัทฯ จะทำการเปิดบัญชีธนาคารของระบบ Pool ในนามของบริษัทฯ ประเภท บัญชีเงินฝากออมทรัพย์เพื่อใช้ในการโอนเงินเข้าออกของสมาชิกร้านค้า เมื่อลูกค้าผู้ถือบัตรอภิสิทธิ์ไปซื้อ สินค้า ผู้ถือบัตรจะได้คะแนนสะสมจากร้านค้าสมาชิกโดยร้านค้าจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเท่ากับคะแนน ที่ให้และดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับดังกล่าวเป็นเงินได้ของระบบ Pool 4. ระยะเวลาของการเป็นสมาชิกของร้านค้าในระบบ Pool ขึ้นอยู่กับการทำสัญญากับบริษัทฯ และสิ้นสุดสัญญาเมื่อสัญญาครบกำหนดและกรณีร้านค้าไม่ต่อสัญญาใหม่กับบริษัทฯ สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ ร้านค้ามอบให้กับสมาชิกบัตรจะถือเป็นการสิ้นสุดของสัญญา และบริษัทฯ จะทำเอกสารแจ้งให้ร้านค้าทราบ ทั้งยอดสุทธิของคะแนนสะสมที่ร้านค้าต้องชำระให้กับระบบ Pool หรือรับคืนจากระบบ Pool 5. คะแนนสะสมของสมาชิกบัตรมีระยะเวลาตามที่แจ้งไว้ในเอกสารสัญญาระหว่างบริษัทฯ และสมาชิกบัตรโดยกำหนดให้คะแนนสะสมของสมาชิกบัตรหมดอายุเมื่อครบกำหนด 13 เดือนนับจากวันที่ บริษัทฯ ออกบัตรให้แก่สมาชิก กรณีสมาชิกบัตรมิได้ต่ออายุบัตรใหม่ให้ถือว่าสมาชิกบัตรได้สละสิทธิ ประโยชน์ต่าง ๆ ของคะแนนสะสม บริษัทฯ หารือว่า 1. จำนวนเงินที่ร้านค้าตกลงให้คะแนนสะสมแก่ลูกค้าผู้ถือบัตรและยินยอมโอนคะแนนสะสม (ที่ มีมูลค่าเสมือนเงินสด) เข้ามาในระบบ Pool (เงินกองกลาง) ถือเป็นรายได้ของ Pool หรือไม่ และ ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ 2. จำนวนเงินที่ระบบ Pool (เงินกองกลาง) จ่ายคืนให้กับร้านค้าสมาชิกในการที่สมาชิก บัตรนำคะแนนสะสมมาแลกซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าสมาชิกนั้น ถือเป็นรายได้ของร้านค้าหรือไม่ และเป็นค่าใช้จ่ายของระบบ Pool หรือไม่ และต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ |
แนววินิจฉัย | : 1. การที่บริษัทฯ ทำสัญญากับร้านค้าสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการขายสินค้าหรือให้บริการแก่ สมาชิกผู้ถือบัตรอภิสิทธิ์ของบริษัทฯ โดยร้านค้าสมาชิกจะส่งเงินเข้าระบบ Pool ถือเป็นเงินได้ของบริษัทฯ ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร และถือเป็นค่าตอบแทนจากการให้บริการตามมาตรา 77/1(10) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2 แห่ง ประมวลรัษฎากร 2. กรณีร้านค้าที่เป็นผู้ขายสินค้าหรือให้บริการได้รับเงินจากระบบ Pool ร้านค้าสมาชิกผู้ขาย หรือผู้ให้บริการจะต้องออกใบกำกับภาษีเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากลูกค้าผู้ถือบัตรอภิสิทธิ์เมื่อความรับผิด ในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น ตามมาตรา 78 และมาตรา 78/1 แห่งประมวลรัษฎากร |
เลขตู้ | : 66/32341 |