เลขที่หนังสือ | : กค 0706/957 |
วันที่ | : 28 มกราคม 2546 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีบริษัทต่างประเทศขายสินค้าเป็นการชั่วคราวในประเทศไทย |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 76 ทวิ, มาตรา 77/2, มาตรา 80, มาตรา 85/3 |
ข้อหารือ | : 1. บริษัทฯ มีลูกค้าคือ บริษัท V ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศเยอรมัน และได้ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มชั่วคราว ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มฉบับที่ 43 โดย มิได้มีสำนักงานหรือสถานประกอบการถาวรใด ๆ ในประเทศไทย และไม่มีตัวแทน หรือผู้กระทำการแทน บริษัท V ในประเทศไทย แต่บริษัท V ได้ให้บริษัทฯ เป็นผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มแทน 2. เมื่อบริษัท V ได้ขายสินค้าให้แก่บริษัท J ซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย บริษัท V จะ ออกใบกำกับภาษีขายจากประเทศเยอรมันส่งมาให้แก่บริษัท J บริษัท J จะชำระราคาสินค้าไปให้บริษัท V ในประเทศเยอรมันโดยตรง 3. บริษัท V ได้สั่งซื้อสินค้าจากบริษัท S ซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย โดยให้บริษัท S ส่งสินค้า ดังกล่าว ณ สถานประกอบการของบริษัท J และบริษัท S จะออกใบกำกับภาษีให้บริษัท V ตามที่อยู่ซึ่งได้ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มชั่วคราว บริษัทฯ จึงหารือว่า 1. บริษัท V มีภาระภาษีที่ต้องเสียในประเทศไทยอย่างไร 2. เงินได้ของบริษัท V ถือเป็นกำไรจากธุรกิจ ซึ่งได้รับการยกเว้นภาษีในประเทศไทยตาม ความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนในส่วนที่ เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้และจากทุนหรือไม่ อย่างไร |
แนววินิจฉัย | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อบริษัท V ซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศเยอรมัน และได้จดทะเบียนภาษี มูลค่าเพิ่ม เป็นการชั่วคราวตามมาตรา 85/3 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ได้สั่งซื้อสินค้าจากบริษัท S ซึ่งตั้ง ขึ้นตามกฎหมายไทย โดยให้ส่งสินค้าไปยังบริษัท J ซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยโดยตรง และบริษัท S ออกใบกำกับภาษีเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากบริษัท V ตามที่อยู่ซึ่งได้แจ้งไว้ในทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ชั่วคราว ถือว่าบริษัท V ขายสินค้าในราชอาณาจักรให้แก่บริษัท J ตามมาตรา 77/2 แห่ง ประมวลรัษฎากร บริษัท V มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยคำนวณภาษีตามมาตรา 80 แห่ง ประมวลรัษฎากร และต้องจัดทำใบกำกับภาษีเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากบริษัท J ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีบริษัท V จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทย และได้ขายสินค้าให้แก่บริษัท J ใน ประเทศไทย ถือว่าบริษัท V มีสถานประกอบการถาวรในประเทศไทย บริษัท V มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ ในประเทศไทย ตามมาตรา 76 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร โดยมีลูกจ้างหรือผู้ทำการแทนหรือ ผู้ทำการติดต่อมีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นแบบและเสียภาษี ตามข้อ 7 วรรคหนึ่ง ของความตกลง ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนในส่วนที่เกี่ยวกับ ภาษีเก็บจากเงินได้ และมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 18) พ.ศ.2505 |
เลขตู้ | : 66/32225 |