เลขที่หนังสือ | : กค 0706/พ./9370 |
วันที่ | : 22 ตุลาคม 2545 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการขายน้ำมันดิบของพืช |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 81(1)(ก) |
ข้อหารือ | : สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ได้ตรวจปฏิบัติการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ปรากฏว่าบริษัทฯ มีเงินได้ หลักจากการส่งออกกะทิสำเร็จรูป และน้ำมันมะพร้าว (ผลพลอยได้) กระบวนการผลิตน้ำมันมะพร้าวของ บริษัทฯ ได้จากกากมะพร้าว ผิวมะพร้าวแห้ง มะพร้าวที่เสีย นำไปเคี่ยวหรืออบให้แห้ง ก่อนนำไปหีบเป็น น้ำมันมะพร้าวและขายไปในลักษณะแกลลอน จึงหารือว่า 1. น้ำมันมะพร้าวถือเป็นกรดไขมันที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ 2. หากน้ำมันมะพร้าวของบริษัทฯ ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทฯ ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตั้งแต่เมื่อใด |
แนววินิจฉัย | : กรณีบริษัทฯ ประกอบกิจการผลิตและส่งออกกะทิสำเร็จรูป มีของเหลือจากการผลิตเป็นกาก มะพร้าว ผิวมะพร้าว ผิวมะพร้าวแห้ง มะพร้าวที่เสีย ซึ่งบริษัทฯ นำไปผ่านกระบวนการผลิต น้ำมันมะพร้าว โดยนำไปเคี่ยวหรืออบให้แห้ง แล้วจึงนำไปหีบเป็นน้ำมันมะพร้าว มีลักษณะเป็นน้ำมันดิบไม่ สามารถบริโภคได้บรรจุแกลลอนขาย น้ำมันมะพร้าวดังกล่าว จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำพืชผลทางการเกษตรมาหีบจนได้เป็น น้ำมันดิบ และขายไปโดยมิได้บรรจุกระป๋อง ภาชนะ หรือหีบห่อที่ผนึกในลักษณะมั่นคง เมื่อยังมิได้แปรรูป หรือแปรสภาพเป็นอาหาร ย่อมเข้าลักษณะเป็นการขายพืชผลหรือวัตถุพลอยได้จากพืช ที่รักษาสภาพไว้เพื่อ มิให้เสียเพื่อการขายปลีกหรือขายส่ง ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81(1)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ที่ 23/2536 เรื่อง ภาษีมูลค่าเพิ่ม การขายน้ำมันดิบของพืช ลงวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2536 |
เลขตู้ | : 65/31999 |