เลขที่หนังสือ | : กค 0811/5816 |
วันที่ | : 28 มิถุนายน 2545 |
เรื่อง | : ภาษีอากรค้าง กรณีการยึด อายัด ทรัพย์สินของผู้ค้าง |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 12 |
ข้อหารือ | : สำนักงานสรรพากรภาคได้หารือปัญหาข้อกฎหมาย กรณีการยึด อายัด ทรัพย์สินของผู้ค้าง ซึ่งมี ข้อเท็จจริงดังนี้ 1. กรณีสามีเป็นผู้ค้างภาษีอากรและเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างฯ ในการสอบสวนทรัพย์สินพบว่ามี บัญชีเงินฝากธนาคารของภริยา ภายหลังจดทะเบียนสมรส จะอายัดสิทธิเรียกร้องในบัญชีเงินฝากดังกล่าว อย่างไร 2. การยึด อายัดทรัพย์สินของคู่สมรส และบุตรผู้เยาว์ หรือภริยาที่มิได้จดทะเบียนสมรสกับ ผู้ค้าง ต้องมีหลักฐานพิสูจน์และข้อกฎหมายใด อย่างไร |
แนววินิจฉัย | : กรณีห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นหนี้ภาษีอากรและสามีเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ หากข้อเท็จจริง หนี้ภาษีอากรดังกล่าวเป็นหนี้ที่สามีและภริยาต้องรับผิดร่วมกันตามมาตรา 1490 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อการสอบสวนทรัพย์พบว่าสามีมีสินสมรสเป็นเงินฝากในธนาคารในชื่อ ของภริยา เจ้าพนักงานย่อมใช้อำนาจตามมาตรา 12 แห่งประมวลรัษฎากร ยึดหรืออายัดสินสมรสส่วน ของสามีได้ แต่จะยึดหรืออายัดสินส่วนตัวของภริยาไม่ได้ จะต้องดำเนินการทางศาลเท่านั้น กรณีการยึดอายัดทรัพย์สินของคู่สมรสและบุตรผู้เยาว์ที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ค้างภาษีอากรหรือ ทรัพย์สินที่ผู้อื่นมีกรรมสิทธิ์ร่วมต้องเป็นไปตามที่ระเบียบกรมสรรพากร ว่าด้วยการยึดและอายัดทรัพย์สิน ของผู้ค้างภาษีอากร ตามมาตรา 12 แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ ในการดำเนินการต่าง ๆ เจ้าพนักงาน ต้องพิสูจน์และมีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับทรัพย์สินที่จะยึดหรืออายัดนั้น จึงจะทำการยึดหรืออายัดได้ |
เลขตู้ | : 65/31765 |