เมนูปิด

 

เลขที่หนังสือ: กค 0811/5212
วันที่: 12 มิถุนายน 2545
เรื่อง: ภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีให้อสังหาริมทรัพย์แก่บุตร
ข้อกฎหมาย: พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 244) พ.ศ. 2534, มาตรา 91/1(4), มาตรา 91/2(6)
ข้อหารือ: นาย ส. ได้กรรมสิทธิ์ถือครองที่ดินพร้อมบ้านมาตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 252 9 ต่อมาบ้านมี
สภาพทรุดโทรมมากจึงได้รื้อถอนบ้านหลังเก่า และได้ปลูกสร้างใหม่ในบ้านเลขที่เดิมในปี พ.ศ. 2538
ก่อสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2539 ต่อมาในปี พ.ศ. 2540 นาย ส. ได้ยกที่ดินพร้อมบ้านให้
แก่ นาย บ. ซึ่งเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจังหวัดปัตตานีได้มีหนังสือแจ้งให้ นาย ส. ไปเสีย
ภาษีธุรกิจเฉพาะ นาย บ. จึงหารือว่า ตามกรณีดังกล่าว นาย ส. ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่
แนววินิจฉัย: ตามข้อเท็จจริงดังกล่าว นาย ส. ให้ที่ดินพร้อมบ้านตึกสามชั้นหนึ่งหลัง เขตบางกอกน้อย
กรุงเทพมหานคร โดยไม่มีค่าตอบแทนแก่ นาย บ. ด้วยกฎหมาย เมื่อปี พ.ศ. 2540 เนื่องจาก นาย ส.
ได้กรรมสิทธิ์ ถือครองที่ดินที่ ยกให้ในปี พ.ศ. 2529 ส่วนบ้านตึกสามชั้นที่ยกให้ตามสัญญา นาย ส.
ปลูกสร้างใหม่เสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2539 จึงเป็นกรณีที่ได้ที่ดินและอาคารที่ยกให้ตามสัญญามาไม่พร้อมกัน
การนับระยะเวลาการได้มาให้ถือตามระยะเวลาการได้มาซึ่งที่ดินหรืออาคารที่ได้มาภายหลัง ตามมาตรา
3(6)(ค) วรรคสอง แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 244) พ.ศ.2534 เมื่อ นาย ส. ทำสัญญาให้ที่ดิน
และอาคารแก่ นาย บ. ในปี พ.ศ. 2540 ซึ่งถือเป็นการขายตามมาตรา 91/1(4) แห่ง
ประมวลรัษฎากร จึงเข้าลักษณะเป็นการขายภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับ
นาย ส. มิได้มีชื่อในทะเบียนบ้านที่ยกให้ จึงอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/2(6)
แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับมาตรา 3(6) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 244) พ.ศ. 2534
เลขตู้: 65/31523


 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020