เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/พ./5696
วันที่: 26 มิถุนายน 2545
เรื่อง: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีราคาตลาดและต้นทุนสินค้า
ข้อกฎหมาย: มาตรา 79, มาตรา 79/3
ข้อหารือ: บริษัท อ. ประกอบธุรกิจเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์นั่ง และรถบรรทุกขนาดเล็ก กลาง ใหญ่
โดยสั่งซื้อรถยนต์จากบริษัท ต. ซึ่งเป็นบริษัทผู้จัดจำหน่ายครั้งละหลาย ๆ คัน ตามสภาวะของตลาดที่
คาดว่าจะจำหน่ายได้ และอาจสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้รับส่วนลดพิเศษจากบริษัทผู้จัดจำหน่าย เนื่องจาก
สภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา รถบรรทุกขนาดใหญ่ไม่สามารถจำหน่าย
ได้ตามราคาขายปกติ บริษัทผู้จัดจำหน่ายจึงได้ให้ส่วนลดพิเศษแก่บริษัทผู้จำหน่ายเพื่อให้สามารถทำกำไร
จากการขาย แม้ราคาตลาดในขณะนั้นจะลดต่ำลงอย่างมาก โดยบริษัทฯ จะนำส่วนลดพิเศษที่ได้รับจาก
บริษัทผู้จัดจำหน่ายไปหักออกจากราคาทุนตามที่แจ้งไว้ในใบกำกับภาษีที่บริษัทผู้จัดจำหน่ายออกให้ ซึ่งเป็น
ราคาที่แจ้งไว้กับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าที่ซื้อขายกันในขณะนั้น (ราคาตลาด) บริษัทฯ
หารือว่า
1. การคิดต้นทุนของบริษัทฯ ที่นำส่วนลดพิเศษที่ได้รับภายหลังมาหักออกจากราคารถที่ปรากฏ
ในใบกำกับภาษีนั้นถือเป็นต้นทุนต่อหน่วยได้หรือไม่
2. ถ้าวิธีคิดต้นทุนตามข้อ 1. ถูกต้อง การที่บริษัทฯ ตั้งราคาขายโดยยึดต้นทุนนั้นแล้วบวก
ประมาณกำไรไว้คันละ 70,000 บาท ถือว่าบริษัทฯ ไม่ได้จำหน่ายต่ำกว่าราคาทุนใช่หรือไม่
3. ราคาตลาดตามแนวทางของกรมสรรพากร ถือเอาราคาที่สามารถซื้อขายในตลาดทั่วไปใน
ขณะนั้น หรือถือตามราคาที่แจ้งไว้กับกระทรวงพาณิชย์
4. กรณีรถยึดกลับมาแล้วนำออกจำหน่ายใหม่จะถือราคาใดเป็นราคาทุน และราคาตลาด
แนววินิจฉัย: 1. กรณีบริษัทฯ ได้รับส่วนลดพิเศษจากบริษัทผู้จัดจำหน่ายในภายหลัง และนำมาหักออกจาก
ราคารถที่ปรากฏในใบกำกับภาษี ส่วนลดพิเศษดังกล่าวมิใช่ค่าส่วนลดหรือค่าลดหย่อนที่ ผู้ประกอบการ
จดทะเบียนได้ลดให้ในขณะขายสินค้าหรือให้บริการและได้หักส่วนลดหรือค่าลดหย่อน ดังกล่าวออกจาก
ราคาสินค้าหรือราคาค่าบริการโดยได้แสดงให้เห็นไว้ชัดแจ้งว่าได้มีการหักส่วนลดหรือค่าลดหย่อนไว้ใน
ใบกำกับภาษีในแต่ละครั้งที่ออกแล้วตามมาตรา 79 วรรคสาม (1) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น บริษัทผู้
จัดจำหน่ายต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มโดยคำนวณมูลค่าของฐานภาษีจากราคาขายทั้งสิ้นไม่หักส่วนลดพิเศษ
และกรณีบริษัทฯ ได้รับส่วนลดพิเศษจากบริษัทผู้จัดจำหน่าย ส่วนลดพิเศษดังกล่าวมิใช่รายรับที่บริษัทฯ ได้
รับจากการขายสินค้าหรือให้บริการ จึงไม่เป็นมูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร
บริษัทฯ ไม่ต้องนำส่วนลดพิเศษไปรวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับ
การคำนวณต้นทุนของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
2. กรณีการตั้งราคาขายของบริษัทฯ เป็นเรื่องของการดำเนินงานทางการค้าของบริษัทฯ ซึ่ง
การคำนวณราคาขายต้องเป็นไปตามราคาตลาด ทั้งนี้ ตามมาตรา 79/3 วรรคสอง แห่ง
ประมวลรัษฎากร
3. ราคาตลาดในการคำนวณมูลค่าของฐานภาษี ให้ถือราคาเฉลี่ยของราคาตลาดที่ซื้อขายกัน
ตามความเป็นจริงทั่วไปในวันที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น ตามมาตรา 79/3 แห่ง
ประมวลรัษฎากร
4. กรณีบริษัทฯ ยึดรถกลับมา หากบริษัทฯ นำรถดังกล่าวออกจำหน่ายใหม่ การคำนวณมูลค่า
ของฐานภาษีสำหรับการขายสินค้าตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร ให้ถือมูลค่าของฐานภาษีเมื่อ
ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น ทั้งนี้ ราคาสินค้าดังกล่าวจะต้องไม่ต่ำกว่าราคาตลาด
โดยไม่มีเหตุอันสมควร ตามมาตรา 79/3(1) แห่งประมวลรัษฎากร
เลขตู้: 65/31696

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020