| เลขที่หนังสือ | : กค 0811(กม.04)/522 |
| วันที่ | : 7 พฤษภาคม 2545 |
| เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม การขออนุมัติเปลี่ยนวิธีการเฉลี่ยภาษีซื้อ |
| ข้อกฎหมาย | : มาตรา 82/6, ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2535 |
| ข้อหารือ | : 1. บริษัทฯ ประกอบกิจการผลิต-จำหน่ายและส่งออกอาหารสัตว์ ซึ่งกิจการผลิตและส่งออก อาหารสัตว์เป็นกิจการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 และกิจการผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ ภายในประเทศเป็นกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทฯ ได้เฉลี่ยภาษีซื้อที่เกิดจากการ ประกอบกิจการทั้งสองประเภท ตามเกณฑ์สัดส่วนของรายได้จากกิจการทั้งสองประเภทในปีที่ผ่านมา โดย ไม่ปรับปรุงภาษีซื้อในตอนสิ้นปีอีก 2. บริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลงวิธีการและเงื่อนไขการเฉลี่ยภาษีซื้อใหม่ดังนี้ 2.1 รอบระยะเวลาบัญชีปี 2544 บริษัทฯ ขอเฉลี่ยภาษีซื้อตามเกณฑ์สัดส่วนของรายได้ จากกิจการทั้งสองประเภทในปีที่ผ่านมา และจะทำการปรับปรุงภาษีซื้อให้เป็นตามสัดส่วนของรายได้ที่ เกิดขึ้นจริงทั้งปีของกิจการทั้งสองประเภท 2.2 ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีปี 2545 เป็นต้นไป บริษัทฯ จะเฉลี่ยภาษีซื้อตามสัดส่วน ของรายได้ที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละเดือนของกิจการทั้งสองประเภท โดยไม่ต้องปรับปรุงภาษีซื้อในตอนสิ้นปี อีก บริษัทฯ ให้เหตุผลที่ขอเปลี่ยนแปลงเกณฑ์การเฉลี่ยภาษีซื้อว่า เนื่องจากในปีปัจจุบันบริษัทฯ มี รายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้น หากใช้เกณฑ์เฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ของปีที่ผ่านมา จะทำให้บริษัท ฯ มียอดเฉลี่ยภาษีซื้อต่ำกว่าในปีปัจจุบัน เป็นผลให้บริษัทฯ ขอคืนเงินภาษีซื้อได้น้อย ทั้ง ๆ ที่มียอดขายสูง ขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่มีเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงการชำระภาษีแต่อย่างใด แต่จะเป็นการสนับสนุนให้บริษัทฯ มี ต้นทุนในการส่งออกต่ำ สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ และจะเป็นผลให้บริษัทฯ มียอดขายที่สูงขึ้น สามารถชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลได้สูงขึ้นด้วย |
| แนววินิจฉัย | : ในกรณีที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนประกอบกิจการทั้งประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและ ประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และผู้ประกอบการจดทะเบียนได้นำสินค้าหรือบริการที่ได้มาหรือได้รับ มาในการประกอบกิจการของตนไปใช้หรือจะใช้ในกิจการทั้งสองประเภท ถ้าไม่สามารถแยกได้อย่าง ชัดแจ้งว่าภาษีซื้อที่เกิดจากสินค้าหรือบริการดังกล่าวเป็นภาษีซื้อของกิจการประเภทใด สำหรับปีถัดจากปีที่ เริ่มมีรายได้เป็นต้นไป ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนเฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ของปีที่ผ่านมา โดยมี วิธีปฏิบัติในการเฉลี่ยภาษีซื้อ 2 วิธี คือ (1) เมื่อเฉลี่ยภาษีซื้อดังกล่าวแล้วไม่ต้องทำการปรับปรุงภาษีซื้ออีก กล่าวคือ เมื่อขอคืน ภาษีซื้อแล้วก็ได้คืนตามจำนวนนั้น เมื่อสิ้นรอบบัญชีไม่ต้องปรับปรุงภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ที่เกิดขึ้นจริง ของปีนั้น หรือ (2) เมื่อเฉลี่ยภาษีซื้อดังกล่าวแล้ว เมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีนั้นได้ปรับปรุงภาษีซื้อตามส่วน ของรายได้ที่เกิดขึ้นจริงของปีนั้นของกิจการทั้ง 2 ประเภท และให้นำไปเปรียบเทียบกับภาษีซื้อที่ได้เฉลี่ย ไปแล้วตามส่วนของรายได้ของรอบปีที่ผ่านมา หากภาษีซื้อที่เฉลี่ยได้ตามส่วนของรายได้ของกิจการที่ต้อง เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของปีนั้นมีจำนวนมากกว่าภาษีซื้อที่เฉลี่ยได้ตามส่วนของรายได้ดังกล่าวของ รอบระยะเวลาบัญชีที่ผ่านมา ก็ให้ขอคืนภาษีซื้อได้ แต่หากปรากฏว่าน้อยกว่าก็ต้องนำส่งภาษีซื้อเพิ่มเติม โดยไม่ต้องเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม เมื่อได้ใช้วิธีการเฉลี่ยภาษีซื้อตาม (1) หรือ (2) อย่างใดแล้ว ก็ให้ถือปฏิบัติเป็น อย่างเดียวกันตลอดไป เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรให้เปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ ตามข้อ 2(3) และข้อ 2(2) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2535 กรณีตามข้อเท็จจริง บริษัทฯ ได้เฉลี่ยภาษีซื้อโดยเลือกวิธีเฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ของ ปีที่ผ่านมา โดยไม่ต้องปรับปรุงภาษีซื้ออีก ตาม (1) ดังนั้น การที่บริษัทฯ ขอเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การ เฉลี่ยภาษีซื้อสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2544 และรอบระยะเวลาบัญชีปี 2545 จึงพิจารณาได้ ดังนี้ รอบระยะเวลาบัญชีปี 2544 บริษัทฯ ขอเฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ของปีที่ผ่านมา และ จะปรับปรุงภาษีซื้อให้เป็นไปตามส่วนของรายได้ที่เกิดขึ้นจริงทั้งปีของกิจการทั้งสองประเภทตาม (2) อนุมัติให้บริษัทฯ เฉลี่ยภาษีซื้อตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ ตามข้อ 2(3) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2535 1. รอบระยะเวลาบัญชีปี 2545 บริษัทฯ ขอเฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ที่เกิดขึ้นจริงใน แต่ละเดือนของปีปัจจุบันของกิจการทั้งสองประเภท เมื่ออธิบดีกรมสรรพากรอนุมัติให้บริษัทฯ เปลี่ยนแปลง หลักเกณฑ์การเฉลี่ยภาษีซื้อสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2544 ตาม 1. แล้ว บริษัทฯ จะต้องถือปฏิบัติ เป็นอย่างเดียวกันสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2545 และสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปีต่อไปตลอดไป เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรให้เปลี่ยนแปลงได้ และการขอเฉลี่ยภาษีซื้อตามวิธีที่บริษัทฯ ร้องขอก็ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2535 การที่บริษัทฯ อ้างว่าเนื่องจากปีปัจจุบันบริษัทฯ มีรายได้จากการส่งออก เพิ่มขึ้น หากใช้เกณฑ์การเฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ของปีที่ผ่านมา จะทำให้บริษัทฯ มียอดเฉลี่ย ภาษีซื้อต่ำกว่าในปีปัจจุบัน ทำให้บริษัทฯ ขอคืนภาษีซื้อได้น้อยนั้น กรณีดังกล่าวบริษัทฯ สามารถปรับปรุง ภาษีซื้อให้เป็นไปตามส่วนของรายได้ที่เกิดขึ้นจริงทั้งปีของกิจการทั้งสองประเภทเมื่อสิ้น รอบระยะเวลาบัญชีได้อยู่แล้ว และหากภาษีซื้อที่เฉลี่ยได้ตามส่วนของรายได้ของกิจการที่ต้องเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่มของปีนั้นมีจำนวนมากกว่าภาษีซื้อที่เฉลี่ยได้ตามส่วนของรายได้ดังกล่าวของ รอบระยะเวลาบัญชีที่ผ่านมาก็ขอคืนภาษีซื้อได้ จึงไม่อนุมัติให้บริษัทฯ เฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ที่ เกิดขึ้นจริงในแต่ละเดือนของปีปัจจุบันของกิจการทั้งสองประเภทตามที่บริษัทฯ ร้องขอ |
| เลขตู้ | : 65/31409 |