เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/4153
วันที่: 20 พฤษภาคม 2545
เรื่อง: ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการขอลดหย่อนภาษีเงินได้ของนักวิจัยชาวญี่ปุ่น
ข้อกฎหมาย: มาตรา 40, มาตรา 41 แห่งประมวลรัษฎากร, พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2505ฯ
ข้อหารือ: มหาวิทยาลัย ก. ได้ลงนามสัญญาความร่วมมือในการวิจัยระหว่างมหาวิทยาลัยฯ กับ บริษัท A
จากประเทศญี่ปุ่น เรื่อง "Termite Symbion Bio-recycle Project" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวิจัย
พัฒนา สร้างองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านการวิจัย เกี่ยวกับปลวก ระหว่างนักวิจัยของ
มหาวิทยาลัยฯ และนักวิจัยจาก บริษัท A โดยมีระยะเวลาดำเนินงาน 5 ปี ระหว่างปี 2542-2547
ในระหว่างการดำเนินงานของโครงการดังกล่าว บริษัท A ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาประจำในประเทศไทย
โดยตกลงรับผิดชอบค่าครองชีพและสวัสดิการ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานวิจัยทั้งหมด ดังนั้น เพื่อ
ให้การดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวสามารถดำเนินต่อไปได้ และเป็นการดำเนินงานเพื่อ
ประโยชน์ในด้านวิจัยทั้งของประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยฯ จึงขอหารือกรมสรรพากรใน
การพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสมเกี่ยวกับการพิจารณาลดหย่อนการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับ
ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่น ภายใต้โครงการดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษ
แนววินิจฉัย: 1. กรณีนักวิจัยจาก บริษัท A คนใดมีเงินได้พึงประเมินเนื่องจากหน้าที่หรือกิจการที่ทำใน
ประเทศไทย ตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว นักวิจัยดังกล่าวมีหน้าที่ต้องเสียภาษี เงินได้
บุคคลธรรมดาในประเทศไทยตามมาตรา 41 วรรคแรก แห่งประมวลรัษฎากร อย่างไรก็ดี ตามข้อ 18
แห่งอนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น ได้ กำหนดให้
ศาสตราจารย์ ครู และนักวิจัย ซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นที่เดินทางเข้ามาทำการสอน หรือวิจัยตาม คำ
เชิญของมหาวิทยาลัย วิทยาลัย โรงเรียน หรือสถาบันการศึกษาอื่นอันเป็นที่รับรองแล้วในประเทศไทย
โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันที่ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อทำการสอนหรือวิจัยใน
สถาบันการศึกษาดังกล่าว ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินค่าตอบแทนการสอนหรือ
วิจัยนั้น ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2505
ทั้งนี้ การสอนหรือการค้นคว้าวิจัยดังกล่าวจะต้องมิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อผลประโยชน์แก่เอกชนคนเดียว
หรือหลายคนโดยเฉพาะ
ดังนั้น หากนักวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นเดินทางเข้ามาทำการสอนหรือวิจัยตามคำเชิญของทาง
มหาวิทยาลัยฯ มีระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี เข้ามาปฏิบัติงานตามโครงการดังกล่าว มิได้เดินทางออกจาก
ประเทศไทยก่อนหรือเมื่อครบกำหนด 2 ปีแล้ว ย่อมมีผลทำให้ระยะเวลาการเข้ามาเยือนเกินกว่า 2 ปี
และทำให้นักวิจัยเหล่านั้นมิได้รับสิทธิในการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตั้งแต่แรกที่เข้ามาเยือน
ประเทศไทย
2. กรณีหากนักวิจัยชาวญี่ปุ่นดังกล่าวมิได้รับสิทธิในการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใน
ประเทศไทยตามข้อ 1 ข้างต้นแล้ว เงินได้หรือค่าตอบแทนจากการวิจัยดังกล่าวย่อมอยู่ในบังคับที่จะต้อง
เสียภาษีเงินได้ให้แก่ประเทศไทย ตามมาตรา 41 วรรคแรก แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ โดยถือว่า
นักวิจัยชาวญี่ปุ่นผู้นั้นมีเงินได้พึงประเมินเนื่องจากหน้าที่งานหรือกิจการที่ทำในประเทศไทย ไม่ว่าเงินได้
นั้นจะจ่ายในหรือนอกประเทศก็ตามการที่จะลดหรือยกเว้นภาษีอากรให้แก่บุคคล คณะบุคคล หรือกิจการใด
นั้น จะต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกาลดหรือยกเว้นเป็นกรณีไป กรมสรรพากรจึงมิอาจพิจารณาลดหย่อน
หรือยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่นักวิจัยชาวญี่ปุ่นจากบริษัท A เป็นการเฉพาะราย เนื่องจากไม่มีกฎหมายใด
ให้อำนาจกรมสรรพากรกระทำเช่นนั้นได้
เลขตู้: 65/31451

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020