เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/3278
วันที่: 23 เมษายน 2545
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีดอกเบี้ยเงินฝากของสมาคม
ข้อกฎหมาย: มาตรา 65 ทวิ (13)
ข้อหารือ: สมาคมฯ ได้รับดอกเบี้ยตามบัญชีเงินฝากเงินสงเคราะห์ล่วงหน้า ซึ่งสมาคมฯ มิได้นำดอกเบี้ย
ดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีตามมาตรา 68 และมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร โดยสมาคมฯ
แจ้งว่าเงินสงเคราะห์ล่วงหน้าที่นำเข้าบัญชีเงินฝากของสมาคมฯ ไม่ใช่เงินของสมาคมฯ แต่เป็นเงินของ
สมาชิก และดอกเบี้ยที่เกิดจากบัญชีเงินฝากดังกล่าวถือว่าได้รับบริจาคจากสมาชิกหรือให้โดยเสน่หาแก่
สมาคมฯ สมาคมฯ จึงไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีตามมาตรา 65 ทวิ (13) แห่ง
ประมวลรัษฎากร
กรมประชาสงเคราะห์เห็นว่า "เงินสงเคราะห์ล่วงหน้า" หมายถึง เงินที่สมาชิก มอบให้
สมาคมฯ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์ให้แก่ผู้รับเงินสงเคราะห์ของ
สมาชิกที่ถึงแก่ความตาย ซึ่งสมาคมฯ สามารถเรียกเก็บเงินสงเคราะห์ล่วงหน้านี้ได้ตามพระราชบัญญัติ
การฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2517 และสมาคมฯ จะนำเงินเหล่านั้นเข้าบัญชีเงินฝากของสมาคมฯ
ในระหว่างรอจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์ จึงหารือว่าดอกเบี้ยเงินฝากจากเงินสงเคราะห์ล่วงหน้าที่อยู่ใน
ความยึดถือและครอบครองของสมาคมฯ ดังกล่าวเป็นเงินได้พึงประเมินอันจะต้องเสียภาษีเงินได้หรือไม่
แนววินิจฉัย: กรณีที่สมาคมฯ นำรายได้เงินสงเคราะห์ล่วงหน้าที่ได้รับจากสมาชิกเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร
และสมาคมฯ ได้รับดอกเบี้ยเงินฝากจากรายได้ดังกล่าวดอกเบี้ยเงินฝากนั้นถือเป็นรายได้ของสมาคมฯ ที่
ประกอบกิจการอันมิใช่รายได้ตามมาตรา 65 ทวิ (13) แห่งประมวลรัษฎากร สมาคมฯ จึงต้องเสีย
ภาษีเงินได้นิติบุคคลจากดอกเบี้ยเงินฝากในอัตราร้อยละ 10 ของเงินได้ ตามข้อ 2 (จ) แห่ง
บัญชีอัตราภาษีเงินได้ท้ายหมวด 3 ภาษีเงินได้
เลขตู้: 65/31389

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020