เลขที่หนังสือ | : กค 0811(กม.03)/379 |
วันที่ | : 1 เมษายน 2545 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการจ่ายเงินค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ใช้ในการขนส่งระหว่างประเทศและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีเงินได้ของคนประจำเรือ |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 70, กฎกระทรวง ฉบับที่ 204 (พ.ศ. 2539)ฯ |
ข้อหารือ | : สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีได้ขอให้กรมสรรพากรพิจารณาสนับสนุนกิจการ การพาณิชยนาวีดังนี้ ข้อ 1 ขยายระยะเวลาการลดหย่อนอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่เป็นค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ใช้ ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ตามพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการ ลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 299) พ.ศ.2539 ออกไปอีก 5 ปี จากเดิมที่กำหนดระยะเวลา ลดหย่อนอัตราภาษีดังกล่าวไว้ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2539 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2544 เพื่อเป็นการ สร้างเสริมความสามารถในการหาตลาดและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันเพื่อให้กองเรือพาณิชย์ไทยเพิ่มขึ้น โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีเห็นว่า การช่วยเหลือผู้ประกอบการเรือไทยด้วยการ ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่เป็นค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศลงเหลือ ร้อยละ 1 ยังมีความจำเป็นอยู่ เนื่องจาก (1) การเดินเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก โดย เฉพาะอย่างยิ่งการซื้อเรือ (2) การเช่าเรือต่างชาติและมีสิทธิเสมือนเรือไทยตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติ ส่งเสริมการพาณิชยนาวี พ.ศ. 2521 เป็นการให้สิทธิการเช่าเรือโดยไม่เกิน 2 เท่าของระวางเรือ ไทยที่ให้บริการในเส้นทางนั้น ซึ่งวัตถุประสงค์ของมาตรการดังกล่าว เพื่อให้เพิ่มขีดความสามารถในการ ให้บริการแก่เรือไทย เนื่องจากการมีอยู่ของบริการในระยะเวลาที่ต้องการใช้บริการเป็นปัจจัยสำคัญใน การใช้บริการ นอกจากนั้น ยังเป็นไปเพื่อให้สินค้าราชการ/รัฐวิสาหกิจที่ต้องขนโดยเรือไทยในเส้นทาง บังคับสามารถส่งมอบได้ทันการ ไม่เกิดความเสียหายแก่ราชการ/รัฐวิสาหกิจผู้ใช้บริการ (3) การลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลที่เป็นค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ใช้ขนส่งสินค้า ระหว่างประเทศตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวแล้วข้างต้นเป็นการลดหย่อนให้เฉพาะกับการเช่าเรือ ต่างชาติเพื่อมาเสริมระวางเรือของเรือไทยที่ให้บริการอยู่ ซึ่งการอนุญาตให้เช่าดังกล่าว สำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีได้พิจารณาถึงความจำเป็นที่ต้องมีการเช่าเรือดังกล่าวซึ่งเป็นไป เพื่อประโยชน์ในการขนสินค้านำเข้าของภาคราชการหรือรัฐวิสาหกิจ และประโยชน์ในการพัฒนาและ ขยายกองเรือพาณิชย์ไทยในระยะยาวต่อไป กล่าวคือ - เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียแก่ราชการหรือรัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นเจ้าของสินค้าไม่ให้ได้ รับความเสียหายจากความล่าช้าหรือไม่สามารถขนสินค้าได้ทันกับความต้องการของทางราชการ - เพื่อเป็นการสงวนรายได้ค่าระวางเรือให้อยู่ในประเทศ - เพื่อเป็นการประหยัดค่าขนส่งสินค้า เนื่องจากโดยปกติผู้เช่าเรือ (บริษัทเรือไทย) ต้องเป็นผู้เสียภาษีให้แก่เจ้าของเรือต่างชาติที่เช่ามาซึ่ง จะเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนค่าขนส่งของเรือไทย ดังนั้นเพื่อเป็นการผ่อนคลายภาระการลงทุนให้กับผู้ประกอบการเรือไทยที่ในการให้บริการ จำเป็นต้องมีเรือจำนวนหลายลำเพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพและมีความสามารถในการแข่งขันทั้งด้าน ความถี่และราคาการบริการ ประกอบกับกิจการขนส่งทางทะเลระหว่างประเทศมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ และความสามารถของการแข่งขันในการส่งออกของประเทศในระยะยาว สำนักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมการพาณิชยนาวีจึงได้ขอขยายระยะเวลาการลดหย่อนภาษีตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับเงินได้พึงประเมินที่เป็นค่าเช่าเรือเดินทะเลที่จ่ายให้แก่เรือเช่าต่างประเทศออกไปอีก 5 ปี ข้อ 2 การประกอบกิจการขนส่งสินค้าทางเรือของเจ้าของเรือไทยจำนวนมากมีการให้บริการ ขนส่งสินค้าในสองลักษณะบนเรือลำเดียวกัน กล่าวคือในบางเที่ยวเรือจะขนส่งสินค้าจากที่แห่งหนึ่งใน ราชอาณาจักรไปยังที่แห่งหนึ่งนอกราชอาณาจักร (การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ) แต่ในบางเที่ยวเรือ เป็นการขนสินค้าจากที่แห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่งภายในราชอาณาจักร ซึ่งทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับรายได้ ของคนประจำเรือนั้นว่าจะได้รับการปฏิบัติในเรื่องการยกเว้นภาษีเงินได้ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 204 (พ.ศ. 2539) อย่างไร ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีเห็นว่า ปัจจุบันคนประจำ เรือพาณิชย์มีความขาดแคลนและมีผู้สนใจเรียนน้อยและอยู่ในอาชีพคนเรือไม่นาน เนื่องจากเป็นอาชีพที่มี ความเสี่ยงสูง ทั้งจากภัยธรรมชาติ และภัยโจรสลัด และการทำงานบนเรือพาณิชย์ต้องการผู้ที่มีความรู้ที่ ได้รับการยอมรับตามมาตรฐานสากล โดยในปัจจุบันคนประจำเรือพาณิชย์ทุกคนทั้งเรือเดินในประเทศและ ระหว่างประเทศต้องมีประกาศนียบัตรวิชาชีพตามระดับตำแหน่งงานในเรือ ซึ่งจะมีความแตกต่างกันตาม ชนิดและขนาดเรือรวมถึงขอบเขตการเดินเรือ และในการเลื่อนระดับชั้นตำแหน่งก็ต้องมีคุณสมบัติตามที่ กำหนดไว้ในแต่ละระดับ ซึ่งขั้นตอนและความก้าวหน้าในอาชีพต้องมีครบทั้งประสบการณ์และความรู้ที่จะ สามารถใช้เลื่อนชั้นประกาศวิชาชีพได้ ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการพาณิชยนาวีโดยเฉพาะ การขยายกองเรือพาณิชย์ไทย ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีกำลังคนประจำเรือที่เพียงพอและมีคุณภาพเพื่อรองรับ การขยายตัวของกองเรือพาณิชย์ไทยอย่างยั่งยืน ด้วยเหตุผลดังกล่าวสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชย์นาวีจึงได้ขอให้กรมสรรพากร พิจารณาให้ยกเว้นภาษีเงินได้คนประจำเรือเป็นการทั่วไป ไม่เฉพาะเรือเดินระหว่างประเทศ เพื่อเป็น การส่งเสริมและพัฒนากิจการพาณิชยนาวีของไทยให้สามารถขยายกองเรือได้สมดังวัตถุประสงค์การ ส่งเสริมกิจการพาณิชยนาวีของประเทศ โดยให้การสนับสนุนอาชีพคนประจำเรือไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ทำงานบน เรือเดินในประเทศหรือระหว่างประเทศ เพื่อเป็นการจูงใจให้มีผู้เรียนและเข้าสู่อาชีพมากขึ้นโดยเฉพาะ อย่างยิ่งคนเก่งรวมถึงเป็นสิ่งจูงใจให้คนทำงานในเรือพาณิชย์นานขึ้นด้วย |
แนววินิจฉัย | : 1. พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 299) พ.ศ.2539 ได้ตราขึ้นด้วยเหตุผลว่าโดยที่เป็นการสมควรลดอัตราภาษีเงินได้ที่นำมา คำนวณภาษีเงินได้ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับเงินได้พึงประเมินที่เป็นค่าเช่า เรือเดินทะเลที่ใช้ในการขนส่งระหว่างประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจการพาณิชยนาวีของประเทศให้มี การพัฒนาและขยายกองเรือเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เฉพาะค่าเช่าเรือที่มีการจ่ายระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2539 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2544 รวม 5 ปี ซึ่งปัจจุบันได้พ้นกำหนดระยะเวลาการลดภาษีสำหรับ เงินได้พึงประเมินที่เป็นค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ใช้ในการขนส่งระหว่างประเทศตามพระราชกฤษฎีกาฯ ฉบับดังกล่าวแล้ว บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต่างประเทศที่ได้รับเงินได้พึงประเมินจากค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ ใช้ในการขนส่งระหว่างประเทศจะต้องเสียภาษีตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งผู้จ่ายมีหน้าที่ ต้องหักภาษีจากเงินได้พึงประเมินที่จ่ายในอัตราร้อยละ 15 การลดภาษีสำหรับเงินได้พึงประเมินที่เป็น ค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ใช้ในการขนส่งระหว่างประเทศให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต่างประเทศลง คงจัดเก็บในอัตราร้อยละ 1 นั้น กระผมมีความเห็นว่าเพื่อเป็นการผ่อนคลายภาระการลงทุนให้แก่ ผู้ประกอบการเรือไทยที่จำเป็นต้องมีเรือหลายลำในการประกอบกิจการขนส่งทางทะเลระหว่างประเทศ แต่ผู้เช่าเรือต้องเป็นผู้เสียภาษีแทนเจ้าของเรือต่างชาติที่เช่ามาซึ่งผู้เช่าเรือก็ได้นำมาเป็นส่วนหนึ่งของ ต้นทุนค่าขนส่ง จึงเห็นสมควรขยายเวลาการลดอัตราภาษีเงินได้จากค่าเช่าเรือเดินทะเลที่ใช้ใน การขนส่งระหว่างประเทศให้ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีร้องขอ แต่ทั้งนี้ เนื่องจากการลดอัตราภาษีลงอาจมีผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีอากรของรัฐได้ ดังนั้น จึงเห็นควรส่ง เรื่องให้ สผ.พิจารณาก่อนที่จะได้ดำเนินการต่อไป 2. กฎกระทรวง ฉบับที่ 204 (พ.ศ. 2539) บัญญัติให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับ "เงินได้ ส่วนที่เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้างที่คนประจำเรือได้รับเนื่องจากการปฏิบัติงานบนเรือไทย ตามกฎหมาย ว่าด้วยการส่งเสริมการพาณิชย์นาวีที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ" ซึ่งกรมสรรพากรได้เคย วินิจฉัยไว้ว่า กฎกระทรวงดังกล่าวเป็นกรณีการส่งเสริมการขนส่งทางทะเลที่กระทำเป็นอาชีพหรือเป็น ปกติโดยเฉพาะ หากได้ใช้เรือไทยเพื่อการขนส่งสินค้าในน่านน้ำไทยเป็นประจำ และใช้เรือไทยเพื่อ การขนส่งไปยังต่างประเทศเป็นครั้งคราว จะไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามกฎกระทรวงนี้ กระผมมีความเห็นว่า เงินได้ส่วนที่เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้างที่คนประจำเรือจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตาม กฎกระทรวงฉบับดังกล่าวนั้น จะต้องเป็นเงินได้ที่ได้รับเนื่องจากการปฏิบัติงานบนเรือไทยที่ใช้ใน การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเท่านั้น หากเป็นเงินได้ส่วนที่เป็นเงินเดือนหรือค่าจ้างที่คนประจำเรือได้ รับเนื่องจากการปฏิบัติงานบนเรือไทยที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศบ้างและขนส่งสินค้าใน ประเทศบ้างจะไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว |
เลขตู้ | : 65/31347 |