เมนูปิด

เลขที่หนังสือ: กค 0811/2213
วันที่: 15 มีนาคม 2545
เรื่อง: ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีจ่ายเงินค่าซื้ออสังหาริมทรัพย์
ข้อกฎหมาย: มาตรา 69 ทวิ
ข้อหารือ: การเคหะแห่งชาติได้จัดซื้อที่ดิน จำนวน 48 แปลง พร้อมสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 48 หลัง จาก
บริษัท ส. ตามโครงการช่วยเหลือวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ ในราคารวมทั้งสิ้น 14,547,912 บาท โดย
สำนักงานที่ดินจังหวัดได้ประเมินราคาทุนทรัพย์ที่ซื้อขายเป็นเงิน 27,336,416 บาท และได้จัดเก็บ
ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่ายจากการขายที่ดินไว้เป็นเงิน 273,365 บาท การเคหะฯ จึงได้ขอให้
สรรพากรจังหวัดตรวจสอบการนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจากการขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแปลงที่การ
เคหะฯ จัดซื้อไว้ดังกล่าวว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งสรรพากรจังหวัดแจ้งว่า การเคหะฯ เป็น
องค์การของรัฐบาลได้จ่ายเงินเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีหน้าที่หักภาษีในอัตราร้อยละ 1 ของยอดเงินได้
พึงประเมินจากผู้รับและนำส่งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะที่มีการ
จดทะเบียน ตามนัยมาตรา 50 (4) และมาตรา 52 แห่งประมวลรัษฎากร แต่มิได้แจ้งว่าภาษีเงินได้หัก
ณ ที่จ่ายที่สำนักงานที่ดินจังหวัดได้เรียกเก็บไว้ดังกล่าวถูกต้อครบถ้วนหรือไม่ และเนื่องจาก
สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินของการเคหะฯ มีเงื่อนไขกำหนดให้ผู้ขายเป็นผู้ชำระค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายให้
ครบถ้วนถูกต้องก่อน การเคหะฯ จึงจะชำระราคาซื้อขายงวดที่ 2 ที่เหลือให้กับผู้ขายตามสัญญา การ
เคหะฯ จึงขอให้กรมสรรพากรตรวจสอบว่าการดำเนินการจัดเก็บภาษีเงินได้เนื่องจากการขายที่ดิน
ดังกล่าวถูกต้องครบถ้วนแล้วหรือไม่ ทั้งนี้ หากการชำระเงินภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายดังกล่าวยังขาดอยู่
เท่าใด การเคหะฯ จะได้เรียกจากผู้ขายนำส่งให้ครบถ้วนต่อไป
แนววินิจฉัย: กรณีตามข้อเท็จจริง การเคหะแห่งชาติได้ซื้อที่ดินจำนวน 48 แปลง จากบริษัท ส. ในราคา
14,547,912.-บาท โดยตกลงชำระราคาเป็น 2 งวด ดังนี้
งวดที่ 1 จำนวน 10,000,000 บาท ชำระในวันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์
งวดที่ 2 จำนวน 4,547,912 บาท ชำระเมื่อครบ 3 เดือนนับแต่วันที่ได้จดทะเบียน
โอนกรรมสิทธิ์
ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏว่าการเคหะฯ และบริษัทฯ ผู้ขายได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ เมื่อวันที่
12 พฤศจิกายน 2544 ณ สำนักงานที่ดินจังหวัด โดยการเคหะฯ ได้หักภาษีเงินได้ ณที่จ่าย ในอัตรา
ร้อยละ 1.0 ตามราคาประเมิน 27,336,416 บาท คิดเป็นเงินภาษี 273,365 บาท และนำส่ง
พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะที่มีการจดทะเบียนแล้ว กรณีดังกล่าวเป็นการหัก
ภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา 69 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งเป็นการไม่ถูกต้องที่ถูกต้องคือการ
เคหะฯ ผู้จ่ายเงินมีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 1.0 ของจำนวนเงินที่จ่าย ตาม
มาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร และเป็นผู้มีหน้าที่นำส่งเงินภาษีตามมาตรา 52 แห่ง
ประมวลรัษฎากร แต่เนื่องจากการเคหะฯ ได้หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายไว้เกินกว่าจำนวนที่ต้องหักตาม
มาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ไว้แล้ว ดังนั้นจึงให้ถือว่าการจ่ายเงินงวดที่ 1 และเงินที่ต้องจ่าย
สำหรับงวดที่ 2 การเคหะฯ ได้หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายและนำส่งไว้แล้วตามมาตรา 69 ทวิ แห่ง
ประมวลรัษฎากร เมื่อการเคหะฯ จ่ายเงินงวดที่ 2 จึงไม่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายอีกแต่ประการใด
เลขตู้: 65/31302

 

 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020