เมนูปิด

 

เลขที่หนังสือ: กค 0811/2049
วันที่: 8 มีนาคม 2545
เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีสัญญาว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ หรือทางเทคนิคระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลต่างประเทศ
ข้อกฎหมาย: มาตรา 40(8), มาตรา 76 ทวิ, มาตรา 70
ข้อหารือ: การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ("กฟผ.") ได้ตกลงทำสัญญาซื้อขายกระแสไฟฟ้ากับบริษัท
ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
การทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าดังกล่าว สืบเนื่องมาจากบันทึกความเข้าใจ ซึ่งเป็นการ
ตกลงร่วมกันที่รัฐบาลไทยทำกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อส่งเสริมการพัฒนา
ไฟฟ้าฯ ซึ่งมีผลต่อเศรษฐกิจและสังคม ฉะนั้น เงินได้ค่ากระแสไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้า
ระหว่าง กฟผ. กับบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จึงไม่อยู่ในข่ายต้องเสีย
ภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร
กฟผ. จึงขอหารือว่า บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่ง
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้าลักษณะเป็นสัญญาว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ หรือทาง
เทคนิคระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลต่างประเทศ ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความใน
ประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2499 หรือไม่ และสัญญาซื้อขาย
พลังงานไฟฟ้าที่ กฟผ. ทำกับบริษัทผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้า ภายใต้บันทึกความเข้าใจดังกล่าวอยู่ในข่ายได้รับ
ยกเว้นภาษีตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวหรือไม่
แนววินิจฉัย: เนื่องจากเงินค่าซื้อกระแสไฟฟ้าตาม 2. ที่ กฟผ. จ่ายให้แก่บริษัทผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าของ
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ("ผู้ขาย") ตามสัญญาซื้อขายดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นเงินได้
จากธุรกิจหรือการพาณิชย์ อันเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร และโดยที่
บริษัทผู้ขาย มิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย ดังนั้น บริษัทผู้ขายจึงไม่มีหน้าที่ต้องเสีย
ภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทยจากรายได้ที่ได้รับจากการขายพลังงานดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นกรณีตาม
มาตรา 76 ทวิ หรือมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร และ กฟผ. ก็ไม่มีหน้าที่ต้องหัก
ภาษีเงินได้นิติบุคคลจากเงินที่จ่ายเพื่อนำส่งกรมสรรพากรแต่อย่างใด ฉะนั้น จึงไม่มีกรณีที่จะต้องพิจารณา
เกี่ยวกับการยกเว้นภาษีเงินได้ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2499
เลขตู้: 65/31294


 

ปรับปรุงล่าสุด: 22-05-2020