คำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร --------------------------------------- |
ด้วยกรมสรรพากรได้ขอให้คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรวินิจฉัยว่า 1. กรณีที่คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรได้มีคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรที่ 26/2537 ว่า นิติบุคคลอาคารชุดซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด เป็นผู้ประกอบการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร ต้องนำเงินกองทุน ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง และค่าสาธารณูปโภคที่เรียกเก็บจากเจ้าของห้องชุดมารวมคำนวณเป็นฐานภาษีเพื่อคำนวณเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 2. ได้มีคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ 4674-4677/2539 วินิจฉัยให้นิติบุคคลอาคารชุดจำนวน 4 ราย ซึ่งเป็นโจทก์ ซึ่งมิได้ดำเนินกิจการใดนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายว่าด้วยอาคารชุดกำหนดไว้ มิใช่ผู้ประกอบการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร ไม่ต้องนำเงินกองทุน ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง และค่าสาธารณูปโภค ที่เรียกเก็บจากเจ้าของห้องชุดเพื่อจัดการดูแลทรัพย์ส่วนกลาง และเพื่อประโยชน์ในการจัดการและบริหารอาคารชุดมาเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 3. แม้คำพิพากษาฎีกาตาม 2. จะมีผลบังคับเฉพาะคู่ความในคดีเท่านั้น แต่คำวินิจฉัยของศาลฎีกาดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบถึงการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มของนิติบุคคลอาคารชุดอื่น ๆ ด้วย จึงควรพิจารณาว่าสมควรที่จะทบทวนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรที่ 26/2537 เรื่อง ภาษีมูลค่าเพิ่ม การเสียภาษีมูลค่าเพิ่มของนิติบุคคลอาคารชุดหรือไม่ คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาและได้มีคำวินิจฉัยในการประชุมครั้งที่ 35/2540 วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2540 ว่า เพื่อให้การเสียภาษีมูลค่าเพิ่มของนิติบุคคลอาคารชุดเป็นไปในลักษณะเดียวกัน ไม่ว่าจะได้มีการฟ้องคดีต่อศาลหรือไม่ จึงให้ยกเลิกคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรที่ 26/2537 และวินิจฉัยว่านิติบุคคลอาคารชุดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด ซึ่งกระทำกิจการเฉพาะตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ ยังไม่เข้าลักษณะเป็นผู้ประกอบการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่ต้องนำเงินกองทุน ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง และค่าสาธารณูปโภคที่เป็นค่าไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ หรือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอย่างอื่นที่เรียกเก็บจากเจ้าของห้องชุดมารวมคำนวณเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 1. นิติบุคคลอาคารชุดต้องกระทำกิจการเฉพาะเพื่อจัดการและดูแลรักษาทรัพย์ส่วนกลางหรือกระทำการใด ๆ เพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายว่าด้วยอาคารชุดกำหนดไว้ 2. นิติบุคคลอาคารชุดต้องไม่กระทำกิจการใดนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายว่าด้วยอาคารชุดกำหนดไว้ 3. นิติบุคคลอาคารชุดต้องไม่ขายสินค้าหรือให้บริการใดกับบุคคลอื่นซึ่งมิใช่เจ้าของห้องชุดนั้น 4. กิจการตามวัตถุประสงค์ตาม 1. ต้องเป็นกิจการซึ่งตามปกติวิสัยในการจัดการดูแลรักษาอาคารชุดเป็นกิจการที่จำเป็นและสมควร |
สั่ง ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 |
จัตุมงคล โสณกุล | |
ปลัดกระทรวงการคลัง | |
ประธานคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร |