เลขที่หนังสือ | : กค 0811/11729 |
วันที่ | : 19 ธันวาคม 2544 |
เรื่อง | : ภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีภาษีอากรของธนาคารพาณิชย์ |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 91/2(1), มาตรา 91/5(1) |
ข้อหารือ | : บริษัทฯ หารือกรมสรรพากรเกี่ยวกับการเสียภาษีอากรของกิจการธนาคารพาณิชย์ ดังนี้ 1. ลูกค้าของบริษัทฯ เป็นสถาบันการเงินซึ่งประกอบธุรกิจธนาคาร ได้แก่ การให้กู้ยืม การ เป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ การปริวรรตเงินตรา การให้บริการโอนเงิน และธุรกิจบัตรเครดิตในกรณีการเป็น ตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ ธนาคารจะทำสัญญากับผู้ถือหุ้นกู้โดยมีสาระสำคัญว่า ธนาคารตกลงเป็นผู้แทนของผู้ถือหุ้นกู้ ในการทำนิติกรรมจำนำ จำนอง รับหลักประกันต่าง ๆ แทนผู้ถือหุ้นกู้ รวมทั้งดำเนินการต่าง ๆ เพื่อ ประโยชน์ของผู้ถือหุ้นกู้ โดยธนาคารมีหน้าที่ระวังรักษาผลประโยชน์ของ ผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้เป็น ผู้จ่ายค่าธรรมเนียมให้ บริษัทฯ เข้าใจว่า สัญญาดังกล่าวเป็นสัญญา ตัวแทนที่ต้องปิดอากร 30 บาท 2. การให้บริการบัตรเครดิตในกรณีของบัตรเครดิตระหว่างประเทศ มีวิธีการดังนี้ (1) มีบริษัทเจ้าของเครื่องหมายบัตรเครดิตดำเนินการจัดตั้งเครือข่ายและศูนย์หักบัญชีใน แต่ละประเทศ (2) สถาบันการเงินในแต่ละประเทศจะมีความตกลงกับเจ้าของเครือข่ายในการออกบัตร (3) แต่ละสถาบันการเงินจะมีลูกค้าที่สถาบันการเงินนั้นออกบัตรให้ (ผู้ถือบัตร) และมี ร้านค้าสมาชิกของสถาบันการเงินนั้นที่ตกลงรับบัตรเครดิตและนำ sale slip มาขายให้สถาบันการเงิน อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินที่เข้าเป็นสมาชิกเครื่องหมายบัตรเครดิตจะมีข้อ ตกลงกับ บริษัทเจ้าของเครื่องหมายบัตรเครดิต ให้ผู้ถือบัตรที่ออกโดยต่างสถาบันการเงินซึ่งอยู่ในเครือข่าย สามารถนำบัตรเครดิตมาใช้กับร้านค้าใด ๆ ที่เป็นสมาชิกของสถาบันการเงินนั้นได้ บริษัทฯ หารือว่า 2.1 กรณีบริษัทเจ้าของเครื่องหมายบัตรเครดิตมีข้อตกลงกับสถาบันการเงินในเครือข่าย ว่า ผู้ถือบัตรเครดิตของสถาบันการเงินใด ๆ สามารถนำบัตรเครดิตไปซื้อสินค้าหรือรับบริการที่ร้านค้า สมาชิกของสถาบันการเงินในเครือข่ายรายใดก็ได้ โดยสถาบันการเงินที่ออกบัตรเครดิตจะเป็น ผู้ดำเนินการเรียกเก็บเงินจากผู้ถือบัตรของตนให้ แล้วโอนเงินผ่านระบบหักบัญชีของศูนย์หักบัญชีของบริษัท เจ้าของเครื่องหมายบัตรเครดิต เพื่อชำระให้แก่ร้านค้าสมาชิกที่ผู้ถือบัตรเครดิตรายนั้นซื้อสินค้าหรือรับ บริการต่อไป กรณีดังกล่าว ธนาคารซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทฯ จะจ่ายเงินค่าธรรมเนียมที่เรียกว่า Interchange fee ให้แก่สถาบันการเงินที่ออกบัตรเครดิตตามอัตราที่ ตกลงกัน เพื่อเป็นค่าบริการ เรียกเก็บเงินแทนและค่าบริการในการโอนเงินให้ และในทางกลับกัน หากผู้ถือบัตรเครดิตของธนาคาร ซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทฯ ไปใช้บริการที่ร้านค้าสมาชิกต่างสถาบันการเงิน ลูกค้าของบริษัทฯ ก็จะ ให้บริการเรียกเก็บเงินแทนและให้บริการโอนเงิน โดยเรียกเก็บ Interchange fee จากธนาคาร หรือสถาบันการเงินนั้น ๆ บริษัทฯ มีความเข้าใจว่า การให้บริการเรียกเก็บเงินแทนและให้บริการโอน เงินดังกล่าวเป็นขั้นตอนของการเรียกเก็บหนี้ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังการใช้บัตรเครดิตสิ้นสุดลง และสามารถ แยกออกได้ต่างหากจากการให้บริการบัตรเครดิต ดังนั้น ค่าธรรมเนียม Interchange fee จึงอยู่ใน บังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ 2.2 ในกรณีผู้ถือบัตรเครดิตของธนาคารซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทฯ ได้นำบัตรเครดิตไปใช้ ซื้อสินค้าในต่างประเทศ หรือนำไปเบิกเงินสดในต่างประเทศ จากร้านค้าหรือจากเคาน์เตอร์ที่มี เครื่องหมายบัตรเครดิตที่ลูกค้าของบริษัทฯ อยู่ในเครือข่าย กรณีดังกล่าว ศูนย์หักบัญชีของบริษัทเจ้าของ เครื่องหมายบัตรเครดิตจะแจ้งยอดการใช้ และอัตราแลกเปลี่ยน แล้วแจ้งยอดเรียกเก็บมายังผู้ถือ บัตรเครดิตโดยผ่านธนาคารซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทฯ จากนั้นลูกค้าของบริษัทฯ จะดำเนินการเรียกเก็บหนี้ จากผู้ถือบัตรเครดิตเป็นเงินบาทซึ่งคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนตามที่ศูนย์ฯกำหนด แต่ศูนย์ฯจะตัดบัญชีระหว่าง กันที่ลูกค้าของบริษัทฯ มีอยู่กับศูนย์ฯ ตามยอดการซื้อสินค้าหรือเบิกเงินของผู้ถือบัตรเครดิตเป็นเงินสกุล เหรียญสหรัฐอเมริกา ภายหลังจากนั้น ศูนย์ฯจะจ่ายค่าธรรมเนียม Conversion fee ให้ลูกค้าของ บริษัทฯ เป็นร้อยละที่กำหนดของยอดเงินเหรียญสหรัฐอเมริกาที่รับชำระจากลูกค้าของบริษัทฯ บริษัทฯ มี ความเข้าใจว่า ค่าธรรมเนียม Conversion fee เป็นค่าธรรมเนียมที่ได้เนื่องจากลูกค้าของบริษัทฯ ได้เรียกเก็บหนี้แทนเป็นเงินบาท แต่ส่งมอบเงินที่ได้จากการเรียกเก็บหนี้แทนเป็นเงินเหรียญ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นรายได้จากการแลกเปลี่ยนสกุลเงินเช่นเดียวกับการดำเนินการในธุรกิจ แลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ จึงอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ |
แนววินิจฉัย | : 1. สัญญาระหว่างลูกค้าของบริษัทฯ กับผู้ถือหุ้นกู้ ตามข้อเท็จจริง เข้าลักษณะเป็นสัญญาตัวแทน มอบอำนาจทั่วไป อยู่ในบังคับต้องเสียอากรแสตมป์ โดยผู้ที่ต้องเสียอากร คือ ตัวการ ซึ่งต้องเสียค่า อากรแสตมป์ 30 บาท ตามลักษณะแห่งตราสาร 21. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ 2. กรณีสถาบันการเงินในเครือข่ายของเจ้าของเครื่องหมายบัตรเครดิตจ่ายเงิน ค่าธรรมเนียมที่เรียกว่า Interchange fee ให้แก่สถาบันการเงินที่ออกบัตรเครดิตตามอัตราที่ตกลงกัน เพื่อเป็นค่าบริการเรียกเก็บเงินแทนและค่าบริการในการโอนเงินให้ เงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็น ค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน ซึ่งเข้าลักษณะเป็นรายรับจากกิจการเฉพาะอย่างที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ กิจการธนาคาร จึงอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/2(1) และมาตรา 91/5(1) แห่งประมวลรัษฎากร 3. กรณีศูนย์หักบัญชีของบริษัทเจ้าของเครื่องหมายบัตรเครดิตแจ้งยอดการใช้ และ อัตราแลกเปลี่ยน แล้วแจ้งยอดเรียกเก็บมายังผู้ถือบัตรเครดิตโดยผ่านธนาคารซึ่งเป็นลูกค้า ของบริษัทฯ ภายหลังจากนั้นลูกค้าของบริษัทฯ จะดำเนินการเรียกเก็บหนี้จากผู้ถือบัตรเครดิตเป็น เงินบาทซึ่งคำนวณ อัตราแลกเปลี่ยนตามที่ศูนย์ฯกำหนด แต่ศูนย์ฯ จะตัดบัญชีระหว่างกันที่ลูกค้าของบริษัทฯ มีอยู่กับศูนย์ฯ ตาม ยอดการซื้อสินค้าหรือเบิกเงินของผู้ถือบัตรเครดิตเป็นเงินสกุลเหรียญสหรัฐอเมริกา ซึ่งศูนย์ฯจะจ่าย ค่าธรรมเนียม Conversion fee ให้ลูกค้าของบริษัทฯ เป็นร้อยละที่กำหนดของยอดเงินเหรียญ สหรัฐอเมริกาที่รับชำระจากลูกค้าของบริษัทฯ เงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็นค่าธรรมเนียมในการโอน เงิน ซึ่งเข้าลักษณะเป็นรายรับจากกิจการเฉพาะอย่างที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกิจการธนาคาร จึงอยู่ใน บังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/2(1) และมาตรา 91/5(1) แห่งประมวลรัษฎากร |
เลขตู้ | : 64/31181 |