เลขที่หนังสือ | : กค 0811(กม.03)/253 |
วันที่ | : 3 ธันวาคม 2544 |
เรื่อง | : ภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย กรณีดอกเบี้ยเงินฝากของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 3 เตรส |
ข้อหารือ | : บริษัทฯ ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตยางแท่งจากสำนักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุน (BOI) โดยได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่ได้จากการ ประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริม มีกำหนดเวลาแปดปีนับแต่วันที่เริ่มมีรายได้จากการประกอบ กิจการ จากการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีดังกล่าว บริษัทฯ จึงเข้าใจว่ารายได้อันเกิดจากดอกเบี้ยเงินฝากใน ธนาคารประเภทออมทรัพย์หากมีจำนวนรวมกันทั้งสิ้นไม่เกินร้อยละ 2 ของรายได้ของ กิจการที่ได้รับการ ส่งเสริมนั้น บริษัทฯ ย่อมจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่ายเช่นกัน ซึ่งจังหวัดเห็นว่าแม้ บริษัทฯ ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากดอกเบี้ยรับไม่เกินร้อยละ 2 ของรายได้ทั้งสิ้นของ กิจการ แต่ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ธนาคารมิต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย และธนาคารย่อมไม่ทราบว่ารายได้ทั้งสิ้น ของกิจการของบริษัทฯ มีจำนวนเท่าใด จึงไม่อาจคำนวณได้ว่าดอกเบี้ยดังกล่าวเกินกว่าร้อยละ 2 ของ รายได้ทั้งสิ้นของกิจการหรือไม่ ฉะนั้นธนาคารจึงยังคงมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายจากบริษัทฯ จังหวัดจึง หารือว่า ความเห็นดังกล่าวถูกต้อง หรือไม่ |
แนววินิจฉัย | : เมื่อบริษัทฯ ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตยางแท่งประเภท 1.19 การผลิต ผลิตภัณฑ์ยาง ตามบัตรส่งเสริมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่ได้จากการประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริมมี กำหนดเวลาแปดปีนับแต่วันที่เริ่มมีรายได้จากการประกอบกิจการนั้น ตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติ ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 บริษัทฯ จึงได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากรายได้ที่เกิดจาก ดอกเบี้ยที่บริษัทฯ นำเงินทุนหมุนเวียนหรือรายได้ที่ได้จากการขายสินค้าของกิจการตั้งแต่วันเริ่มมีรายได้ จากการประกอบกิจการไปฝากธนาคารหรือสถาบันการเงิน ดอกเบี้ยที่เกิดจากเงินฝากประเภทที่จ่ายคืน เมื่อทวงถามประเภทออมทรัพย์ซึ่งใช้สมุดคู่ฝากในการฝาก ถอน และไม่ได้ใช้เช็คในการถอนดอกเบี้ยรับ ในกรณีนี้ถือเป็นรายได้จากการประกอบ กิจการที่ได้รับการส่งเสริม จึงได้รับการยกเว้น ภาษีเงินได้นิติบุคคล ทั้งนี้ ดอกเบี้ยดังกล่าวต้องมีจำนวนรวมกันทั้งสิ้นไม่เกิน ร้อยละ 2 ของรายได้ ของ กิจการที่ได้รับการส่งเสริมในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี แต่เนื่องจากขณะที่ธนาคารจ่ายดอกเบี้ยให้แก่ บริษัทฯ นั้น ธนาคารไม่อาจทราบได้ว่าดอกเบี้ยที่จ่ายนั้นมีจำนวนไม่เกินร้อยละ 2 ของรายได้ทั้งสิ้นของ กิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนหรือไม่ ฉะนั้น ธนาคารผู้จ่ายเงินได้ (ดอกเบี้ย) ให้แก่บริษัทฯ จึง ยังคงมีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามปกติ |
เลขตู้ | : 64/31137 |