เลขที่หนังสือ | : กค 0811/พ./8466 |
วันที่ | : 30 สิงหาคม 2544 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีรัฐวิสาหกิจให้เอกชนเช่าลงทุนบริหารและประกอบการท่าเทียบเรือ |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 81(1)(ต), ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 42) พ.ศ. 2535 |
ข้อหารือ | : กรณีที่การท่าเรือฯ นำพื้นที่ท่าเทียบเรือ C3 ไปให้บริษัทที่ชนะการประกวดราคาเช่าบริหาร ตามเงื่อนไขของสัญญา เข้าลักษณะเป็นการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตาม มาตรา 81(1)(ต) แห่งประมวลรัษฎากร และตามข้อ 2(4) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 42) เรื่อง การกำหนดภาษีซื้อที่ไม่ให้นำไปหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 82/5(6)แห่ง ประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2535 กำหนดความว่า ภาษีซื้อที่เกิดจากการ ก่อสร้าง อาคารหรืออสังหาริมทรัพย์อื่น เพื่อใช้หรือจะใช้ในกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และต่อมาได้ ขายหรือให้เช่าหรือนำไปใช้ในกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ เฉพาะ ที่ได้กระทำ ภายในสามปีนับแต่เดือนภาษีที่ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับสำหรับภาษีซื้อที่เกิดจากการก่อสร้างอาคารหรืออสังหาริมทรัพย์ อื่น เพื่อใช้หรือจะใช้ในกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และต่อมาได้ขายหรือให้เช่าหรือนำไปใช้ ในกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม อันเนื่องมาจาก (ก) (ฉ) การประกอบกิจการของรัฐตาม กฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ ต่อมากรมสรรพากรได้มีคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.106/2544 เรื่อง การเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการให้บริการของผู้ประกอบกิจการท่าเรือ และผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการให้บริการอื่นในลักษณะ ทำนองเดียวกันกับกิจการท่าเรือ ลงวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2544 กำหนดว่า การให้บริการของ กิจการท่าเรือ กิจการที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับกิจการท่าเรือ เข้าลักษณะเป็นการให้บริการผู้ประกอบ กิจการดังกล่าวต้องนำมูลค่าทั้งหมดที่ได้รับหรือพึงได้รับมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีเพื่อเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงขอทราบว่า กรณีที่การท่าเรือฯ นำท่าเทียบเรือไปให้เอกชนเช่าลงทุนบริหารและ ประกอบกิจการท่าเรือ หรือให้บริการอื่นในลักษณะทำนองเดียวกันกับกิจการท่าเรือ ต้องเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ |
แนววินิจฉัย | : กรณีตามข้อเท็จจริงข้างต้น การท่าเรือฯ นำท่าเทียบเรือไปให้เอกชนเช่าลงทุนบริหารและ ประกอบกิจการท่าเรือหรือให้บริการอื่นในลักษณะทำนองเดียวกันกับกิจการท่าเรือ เข้าลักษณะเป็น การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81(1)(ต) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น ภาษีซื้อที่เกิดจากการก่อสร้างท่าเทียบเรือเพื่อใช้หรือจะใช้ในกิจการประเภทที่ต้องเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่ม หากการท่าเรือฯ ได้ขายหรือให้เช่าหรือนำไปใช้ในกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่มภายในสามปีนับแต่เดือนภาษีที่ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ ภาษีซื้ออันเกิดจากการ ก่อสร้าง ท่าเทียบเรือดังกล่าวเป็นภาษีซื้อที่ไม่ให้นำไปหักออกจากภาษีขายตามข้อ 2(4) ของ ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 42) เรื่อง การกำหนดภาษีซื้อที่ไม่ให้นำไป หักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 82/5(6) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2535 สำหรับภาษีซื้อที่เกิดจากการก่อสร้างอาคารหรืออสังหาริมทรัพย์อื่น เพื่อใช้หรือจะใช้ใน กิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มของการท่าเรือฯ หากการท่าเรือฯ ได้ขายหรือให้เช่าหรือนำไป ใช้ในกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มภายในสามปีนับแต่เดือนภาษีที่ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ อัน เนื่องมาจากการแปรรูปกิจการของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการใน กิจการของรัฐ การท่าเรือฯ ยังคงมีสิทธินำภาษีซื้อดังกล่าวไปหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2(4)(ฉ) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับดังกล่าว |
เลขตู้ | : 64/30892 |