เลขที่หนังสือ | : กค 0811/พ./7894 |
วันที่ | : 16 สิงหาคม 2544 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการเลิกกิจการและโอนกิจการ |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 8, มาตรา 82 |
ข้อหารือ | : สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่หารือเรื่อง ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีเลิกกิจการและโอนกิจการ ราย B ว่ายังไม่ชัดเจน จึงขอหารืออีกครั้งหนึ่งในประเด็นดังนี้ 1. B สิ้นสุดการเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อจดแจ้งเลิกประกอบธุรกิจ ของคนต่างด้าวกับกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2539 หรือเมื่อจดแจ้งเลิกประกอบกิจการ และโอนกิจการ กับสำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2540 โดยไม่ให้มีผลย้อนหลังไป เป็นวันที่ 17 กันยายน 2539 ตามที่บริษัทฯ แจ้ง 2. เนื่องจากปัจจุบัน B มิได้ประกอบกิจการในประเทศไทยแล้ว ในกรณีมีความผิดเกี่ยวกับ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องทำการประเมินภาษีหรือเรียกคืนเงินภาษี จะประเมินภาษีหรือเรียกคืนเงินภาษีไปยัง สถานประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งปัจจุบันได้แจ้งเลิกประกอบการแล้ว หรือจะประเมินไป ยังภูมิลำเนาของนิติบุคคลดังกล่าว ซึ่งอยู่ในประเทศคานาดา และหากต้องทำการประเมินไปยังภูมิลำเนา หน่วยงานใดมีอำนาจดำเนินการ และต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง สำนักงานสรรพากรภาคเห็นว่า 1. เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า B เคยประกอบกิจการในประเทศไทย ในฐานะเป็น ผู้ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และได้แจ้งเลิกประกอบธุรกิจเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2539 โดยต่อมาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2540 ได้แจ้งโอนกิจการ (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) ให้แก่ C และแจ้ง เลิกกิจการ (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) ตามมาตรา 85/13 และมาตรา 85/15 แห่งประมวลรัษฎากร โดยขอให้ มีผลย้อนหลัง จนถึงวันที่ 17 กันยายน 2539 ซึ่งเจ้าพนักงานยังไม่ได้พิจารณาอนุมัตินั้น กรณีถือได้ว่า ตั้งแต่ก่อนที่จะแจ้งเลิกประกอบธุรกิจ B ยังคงมีฐานะเป็นผู้ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวและ เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ ดังนั้น B จึงสิ้นสุดการเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อได้จดแจ้งเลิกประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวกับกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2539 2. กรณีความผิดเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งต้องทำการประเมินภาษี หรือเรียกคืนเงินภาษี แต่ เนื่องจากปัจจุบัน B มิได้ประกอบกิจการในประเทศไทยแล้ว หากต้องทำการประเมินภาษีไปยังภูมิลำเนา ซึ่งอยู่ ณ ประเทศคานาดา หน่วยงานใดมีอำนาจดำเนินการและต้องดำเนินการอย่างไร |
แนววินิจฉัย | : ตามมาตรา 82 แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้แก่ ผู้ประกอบการ ดังนั้น กรณีบริษัท B แม้ว่าจะมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทยแล้ว แต่ในระหว่างที่ยัง ประกอบกิจการในประเทศอยู่และมีฐานะเป็นผู้ประกอบการ จึงเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษี ในการประเมินภาษี มูลค่าเพิ่มของเจ้าพนักงานประเมิน จึงมีอำนาจในการประเมินให้บริษัท B เสียภาษีหรือคืนภาษีแล้วแต่ กรณี การประเมินภาษีดังกล่าวจึงเป็นการประเมินภาษีของการประกอบกิจการ ในฐานะที่เป็น ผู้ประกอบการที่มีหน้าที่เสียภาษี แม้ว่าจะได้เลิกประกอบกิจการแล้ว เจ้าพนักงานในท้องที่ที่บริษัท B ในระหว่างการประกอบกิจการมีสถานประกอบการตั้งอยู่ จึงยังคงมีอำนาจที่จะประเมินได้ สำหรับการส่ง ใบแจ้งการประเมินในกรณีที่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีได้ออกไปนอกราชอาณาจักร จะใช้วิธีโฆษณาข้อความย่อใน หนังสือพิมพ์ที่จำหน่ายเป็นปกติในท้องที่นั้นก็ได้ ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 8 วรรคสอง แห่ง ประมวลรัษฎากร |
เลขตู้ | : 64/30807 |